นราธิวาส – สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ล่าสุดมีประชาชนเดือดร้อนกว่า 100,000 คน และมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ขณะที่แนวโน้มสถานการณ์ลุ่มน้ำหลัก 3 สาย มีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้น
วันนี้ (23 พ.ย.) แขวงทางหลวงนราธิวาส กรมทางหลวง สรุปสถานการณ์อุทกภัยบนถนนทางหลวงในพื้นที่ จ.นราธิวาส พบมีน้ำท่วมขังผิวจราจรสะสม 12 จุด โดยสถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง มีเส้นทางวิกฤตที่รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านได้จำนวน 3 จุด ประกอบด้วย
1.ทล.4168 (ต้นไทร-ปะลุกาสาเมาะ) ช่วง กม.0+050-0+300 ระดับน้ำสูง 70 ซม. ใช้ทางเลี่ยง: ไปทาบ้านมะยูง ถนนของ อบต. ทางเข้าตรงกับ กม.163+000
2.ทล.44300 ทางเข้ายี่งอ ช่วง กม.2+400 ระดับน้ำสูง 40 ซม. ใช้ทางเลี่ยง ทล.43000100 ทางเข้ายี่งอ กม.0+000-0+565
และ 3.ทล.4167 (ไทรทอง-ต้นไทร) ช่วง กม.11+500-กม.11+700 ระดับน้ำสูง 50 ซม. ไม่มีเส้นทางเลี่ยง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงนราธิวาสได้ติดตั้งป้ายเตือนและอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยในพื้นที่แล้ว ประชาชนสามารถสอบถามเส้นทางได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 โทรฟรี 24 ชม.
ด้านกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารภัยจังหวัดนราธิวาส ได้รายงานข้อมูลสถานการณ์อุทกภัยล่าสุด โดยมีพื้นที่ได้รับผลกระทบแล้ว 7 อำเภอ 29 ตำบล 36 ชุมชน 134 หมู่บ้าน 34,036 ครัวเรือน 106,861 คน และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นางสาวจุฑาทิพ วัธนพร อายุ 50 ปี
ขณะที่แนวโน้มสถานการณ์ลุ่มน้ำหลัก 3 ลุ่มน้ำ ได้แก่ 1.ลุ่มน้ำโก-ลก ระดับน้ำปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น, 2.ลุ่มน้ำบางนรา ระดับน้ำล้นตลิ่ง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และ 3.ลุ่มน้ำสายบุรี ระดับน้ำเฝ้าระวัง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส ยังคงมีการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ทั้ง 3 ลุ่มน้ำดังกล่าวอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง และขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลจากทางราชการและการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุหรือขอความช่วยเหลือที่สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง


