พัทลุง - พัทลุงฝนยังตกหนัก เตือนระวังดินโคลนถล่มพื้นที่อำเภอติดภูเขา ขณะที่เจ้าของควายน้ำต้องเร่งอพยพออกจากพื้นที่ หลังระดับน้ำในป่าพรุเพิ่มสูงขึ้น
วันนี้ (21 พ.ย.) จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพัทลุง จากการรายงานของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุง จนถึงขณะนี้เกิดน้ำท่วมแล้วใน 10 อำเภอ 47 ตำบล 242 หมู่บ้าน 8 ชุมชน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 12,753 ครัวเรือน จำนวน 33,384 คน ล่าสุด หลายพื้นที่ยังคงมีน้ำท่วมขังเนื่องจากน้ำป่ายังคงไหลหลากจากแนวภูเขาบรรทัด ตั้งแต่อำเภอป่าบอน อำเภอโตะหมด อำเภอกงหรา อำเภอศรีนครินทร์ อำเภอศรีบรรพต และอำเภอป่าพะยอม โดยน้ำได้ลงมาตามน้ำตกต่าง ๆ ไหลลงสู่ลำคลองเส้นหลัก ทำให้เกิดน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร บ้านเรือนประชชน และถนนที่ใช้สัญจรระหว่างหมู่บ้าน
ขณะที่พื้นที่ในอำเภอดังกล่าวยังมีสภาพฝนตกหนักสลับกับฝนเบาบางตลอดทั้ง 2 วันที่ผ่านมา ทำให้มีน้ำเก็บสะสมบนภูเขาเป็นจำนวนมาก และเกิดดินอุ้มน้ำ จึงมีการแจ้งเตือนทางโทรศัพท์ ผ่านระบบ “บรอดแคสต์” (broadcast) ตั้งแต่เช้าวันนี้ว่า จังหวัดพัทลุง ข้อความแจ้งเตือนเชิงข้อมูล ปภ.เตือนฝนตกหนัก 21-11-2025 09:22:16 ขณะนี้พบ กลุ่มฝนตกแช่ทั่วทั้งจังหวัดในพื้นที่ จ.พัทลุง ขอเน้นย้ำให้ ระวังน้ำท่วม ดินโคลนถล่ม ในพื้นที่ริมคลอง/ลำน้ำ ที่ลุ่มต่ำและที่ลาดเชิงเขา ระวังระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นในพื้นที่น้ำท่วมเดิมอยู่แล้ว ให้ยกของขึ้นที่สูง เคลื่อนย้ายรถไปที่สูง ซึ่งส่วนใหญ่ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงดังกล่าวได้รับข้อมูล เพื่อเตรียมตัวในการรับมือสถานการณ์
จากสถานการณ์น้ำท่วมทำให้ประชาชนเดือดร้อนเป็นจำนวนเพื่อความถูกต้องของหลักเกณฑ์ของทางราชการในการช่วยเหลือ จึงประกาศเขตภัยพิบัติเพิ่มเติมอีก 1 อำเภอ คือ อำเภอเมืองพัทลุง จากที่ก่อนหน้านี้ได้ประกาศไปแล้ว 1 อำเภอ คือ อำเภอกงหรา และคาดว่าทางจังหวัดพัทลุง จะทยอยประกาศเขตภัยพิบัติเพิ่มเติมในอำเภออื่น ๆ ที่น้ำท่วมหนัก
ขณะที่วันนี้โรงเรียนหลายพื้นที่ยังปิดการเรียนการสอนเป็นวันที่ 2 โดยเฉพาะโรงรัยนในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง ทุกโรงเรียนปิดการเรียนการสอน เนื่องจากผู้ปกครองหวั่นในเรื่องความปลอดภัยของบุตรหลาน สถานการณ์น้ำท่วมและฝนที่ตกหนัก
ส่วนในพื้นที่บ้านหัวป่าเขียว ม.7 ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง หลังจากมวลน้ำจาก อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช น้ำจาก อ.ป่าพะยอม อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ไหลลงมาสมทบ ทำให้น้ำท่วมป่าพรุและมีปริมาณที่สูงขึ้น ทำให้เจ้าของควายน้ำมรดกโลกทางด้านการเกษตรกว่า 1,000 ตัว ต้องเร่งอพยพควายน้ำออกจากป่าพรุ่อย่างเร่งด่วนเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากพื้นที่ทุ่งหญ้ามีน้ำท่วมสูงจนควายน้ำไม่สามารถหากินได้ และเสี่ยงต่ออาการปอดบวมหลังจมน้ำอยู่นาน


