นราธิวาส – ชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่นราธิวาส มั่นใจ “อภิสิทธิ์” หวนกลับนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคจะเรียกศรัทธาของมวลชนได้ เผยหากได้เป็นรัฐบาลจะแก้ปัญหาชายแดนใต้ด้วยความจริงใจและจริงจัง
วันนี้ (19 พ.ย.) ที่ห้องประชุมอ่าวมะนาวรีสอร์ท ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาพบปะสมาชิกที่แสดงความจำนงเพื่อรับลงการสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่จะมีขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ โดยมีผู้เดินทางมาแสดงความจำนงเป็นตัวแทนลงสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานีและนราธิวาส จำนวนกว่า 30 คน โดยที่ จ.ยะลา มีเขตเลือกตั้ง 3 เขต ปัตตานี 5 เขต และ นราธิวาส 5 เขต
โดยมี นายเจะอามิง โตะตาหยง รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถือว่าเป็นผู้รับผิดชอบคัดเลือกผู้ที่มีความจำนงมาลงสมัครในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ต้องเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องของวุฒิสภาวะ ประสบการณ์ด้านการเมือง ที่จะต้องมีการตัดสินใจใครจะได้รับสิทธิ์ลงสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในครั้งนี้ เพื่อจะนำรายชื่อเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการสรรหา และจะประกาศผู้สมัครอย่างเป็นทางการภายในต้นเดือนธันวาคม
นอกจากนั้น นายชัยชนะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มอบตะกร้าและเงินเยียวยาให้กับสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ที่โดนระเบิดจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่อำเภอจะแนะ
ซึ่งในที่ประชุม นายชัยชนะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวในห้องประชุมเพื่อให้ผู้ที่แสดงความจำนง เพื่อรับลงการสมัครรับเลือกตั้งเป็นตัวแทนของพรรคในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับทราบนโยบาย รวมถึงในช่วงที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ดำเนินการไปแล้วอย่างไรบ้าง ซึ่งมีการพูดถึงบทบาทของรัฐต่อการจัดการพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้พอสรุปว่า การใช้กฎอัยการศึก พรบ.ฉุกเฉิน หรือกระบวนการยุติธรรมบางครั้งมีการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรม ถ้าบอกว่าเขาจะถูกนำไปเป็นพยาน ก็ควรเชิญไปตามกระบวนการ ไม่ใช่นำกำลัง 10–100 นาย ไปปิดล้อมบ้านจนเพื่อนบ้านเข้าใจผิด คิดว่าเขาเป็นผู้ก่อเหตุ ส่งผลกระทบกับครอบครัว ทั้งด้านภาพลักษณ์และสภาพจิตใจ
ถ้าย้อนกลับไปสมัยรัฐบาลท่านชวน หลีกภัย เหตุความไม่สงบไม่ได้รุนแรงเท่าวันนี้ แม้ในปี 2552 ตอนที่เราเป็นรัฐบาล เราก็พยายามแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ผมจึงเชื่อว่าปัญหาชายแดนใต้ต้องแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.ผู้ก่อเหตุความไม่สงบ ซึ่งมีอยู่จริง และ 2.เจ้าหน้าที่รัฐที่อาจมีส่วนร่วมในความไม่เป็นธรรม รัฐต้องจัดการอย่างเด็ดขาด ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐไม่เกี่ยวข้อง การก่อเหตุก็จะไม่ทำได้ง่ายขนาดนี้แน่นอน
ซึ่งนโยบายสันติภาพของเราต้องเป็นการพูดคุยแบบเปิดใจและเข้าใจบริบทจริง ไม่ใช่แค่พูดคุยเชิงวรรณกรรม วันนี้พี่น้องในสามจังหวัดจำนวนมากอพยพออกนอกพื้นที่เพราะความไม่ปลอดภัย รัฐบาลต้องสร้างอาชีพ สร้างความมั่นคง สร้างแรงจูงใจให้คนอยู่ในระบบ เพื่อให้มีรายได้มั่นคง พร้อมกับปลูกฝังค่านิยมการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม เราต้องถามรัฐบาลตรง ๆ ว่า จริงจังแค่ไหน
“ผมขอเรียกร้องไปยังท่านนายกรัฐมนตรีเวลาลงพื้นที่สามจังหวัดใต้ต้องลงด้วยหัวใจ ไม่ใช่หวังแค่ดึง ส.ส. เพื่อสร้างเสียงข้างมากในสภา ประชาชนเสียชีวิตอีกกี่ศพ ต้องเกิดเหตุร้ายอีกกี่ครั้ง ราคายางต้องตกต่ำอีกแค่ไหน ท่านถึงจะจริงจัง ท่านพูดเสมอว่าชายแดนใต้คือหัวใจของปลายด้ามขวาน แต่หัวใจจริง ๆ คือประชาชน ไม่ใช่จำนวน ส.ส. ของพรรค ผมอยากให้ท่านประกาศให้ชัดว่าภายในหนึ่งเดือน จะแก้ปัญหาความไม่เป็นธรรม กฎอัยการศึก และเหตุร้ายในพื้นที่อย่างไร เพราะ 2 เดือนที่ผ่านมาเราเห็นเพียงการดูด ส.ส. เท่านั้น”
นายชัยชนะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า เกือบ 2 เดือนที่ นายอนุทิน ชาญวีระกูล มาเป็นนายกรัฐมนตรี สิ่งเดียวที่ท่านสร้างคือ ดูดและดึง ส.ส. มาเข้าพรรคแค่นั้น ตอนนี้พรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของท่านอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยืนยันว่า ถ้าเราได้กลับมาเป็นรัฐบาล เราจะแก้ปัญหาชายแดนใต้ด้วยความจริงใจและจริงจัง เรามีตัวแทนอยู่ในพื้นที่ เรามอบหมายให้ นายเจะอามิง โตะตาหยง รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เปิดคลินิกกฎหมายให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับกฎอัยการศึก พรบ.ฉุกเฉิน พร้อมกับรวบรวมผู้เสียหายทั้งหมดเพื่อตรวจสอบว่าหน่วยงานรัฐได้เยียวยาอะไรแล้วบ้าง เรายังจะตรวจสอบงบประมาณลับของทุกหน่วยงานด้านความมั่นคงว่าถูกใช้ไปเพื่อแก้ปัญหาจริงหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างในสามจังหวัดชายแดนใต้ ว่าเป็นไปตามขั้นตอนหรือใช้วิธีพิเศษที่อาจมีการทุจริต
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม นายชัยชนะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า เมื่อการเรียนรู้เท่าเทียมกัน การแข่งขันทางการเมืองนั้นคือการแข่งขันทางความคิด ถ้าเราชิงการนำเสนอนโยบายที่จับต้องได้และประชาชนเชื่อมั่น ผมคิดว่านั้นคือเราได้ความศรัทธาคืนมา ที่สำคัญในวันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชรชีวะ ต้องยอมรับเป็นนักการเมืองในประเทศนี้ ใช้คำว่าน่าจะหายาก เป็นผู้นำที่มีสัจจะ รักษาคำพูดและสุจริต ท่านเป็นหัวหน้าพรรคที่มีจิตวิญญาณ ท่านไม่มีใครอยู่ข้างหลัง เราทราบดีว่าถ้าเลือกพรรคไหนไปใครอยู่ข้างหลัง เลือกน้ำเงินใครควบคุม เลือกแดงใครควบคุม เลือกส้มใครควบคุม งั้นเลือกประชาธิปัตย์แน่นอนอยู่ข้างหลังคือประชาชน


