ยะลา - ด่านศุลกรเบตงเปิดใช้ระบบ TTA ยื่นข้อมูลผู้ขออนุญาตและยานพาหนะล่วงหน้าทางอินเตอร์เน็ต เพื่ออำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวในการนำยานพาหนะเข้า-ออกประเทศ
วันนี้ (18 พ.ย.) ที่ด่านศุลกากรเบตง อ.เบตง จ.ยะลา. นางสาวนัยรัตน์ พงศ์ศักดินนท์ นายด่านศุลกากรเบตง ได้ประชุมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องในการเปิดใช้ระบบ Thailand Transport Application (TTA) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวในการนำยานพาหนะเข้า-ออกประเทศ โดยในปีงบประมาณ 2568 สถิติยานพาหนะเข้า-ออกทางด่านศุลกากรเบตงมีจำนวน 358,907 คัน แบ่งเป็นขาเข้า 179,757 คัน ขาออก 179,150 คัน
ในด้านการค้าชายแดนกับประเทศมาเลเซียผ่านทางด่านศุลกากรเบตง ส่วนใหญ่เป็นสินค้าส่งออกมีมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากยางพารา ยางผสมสำเร็จ ผลไม้ตามฤดูกาล และไม้อัด ส่วนสินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ แอมโมเนียเหลว ยางสไตรีนบิวทาโดอีน เมลามีน ที่ใช้ในอุตสาหกรรมไม้อัด และสินค้าอื่นๆ มีมูลค่านำเข้าเฉลี่ยต่อปี 80 ล้านบาท
นางสาวนัยรัตน์ เปิดเผยว่า ในปีหนึ่งจะมียานพาหนะผ่านเข้า-ออกเฉลี่ยละประมาณ 300,000 คัน และมีปริมาณค่อนข้างจะเพิ่มสูงขึ้น โดยนักท่องเที่ยวจะเข้าวันศุกร์ เพื่อท่องเที่ยวในตัวเมืองเบตง และจะกลับออกไปประเทศมาเลเซียในวันอาทิตย์ ดังนั้น เพื่อให้ผู้มาใช้บริการสะดวกสบาย กรมศุลกากรได้สร้างระบบ Thailand Transport Application (TTA) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวในการนำยานพาหนะเข้า-ออกประเทศ ได้ยื่นข้อมูลผู้ขออนุญาตและยานพาหนะล่วงหน้าทางอินเตอร์เน็ต โดยสแกน QR Code/Bar code ที่แนบมาพร้อมนี้และกรอกข้อมูลให้เรียบร้อย เมื่อกรอกเรียบร้อยจะได้เลขอ้างอิง QR Code /Bar code สำหรับนำไปติดต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร ณ ด่านพรมแดน เพื่อออกเอกสารใบขนสินค้าพิเศษสำหรับยานพาหนะที่นำเข้า หรือนำออกชั่วคราวต่อไป
“การส่งข้อมูลล่วงหน้า ผ่านทาง TTA ทำให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาในการดำเนินการน้อยลง โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาวที่มีผู้มาใช้บริการจำนวนมากการใช้บริการ ระบบ Thailand Transport Application (TTA) ทำได้ด้วยการเข้าหน้าเว็บไซด์ http://tta.customs.go.th โดยต้องไปลงทะเบียนในระบบก่อนจึงจะใช้งานได้ เมื่อลงทะเบียนเสร็จสิ้นเข้าไปหน้าเมนูจะมีเลือก การขออนุญาตยานพาหนะที่เป็นรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และมีเมนูติดตามการดำเนินการว่าถึงขั้นตอนไหน ระบบ TTA .ให้บริการทั้งภาษาไทยสำหรับคนไทย และภาษาอังกฤษสำหรับชาวต่างชาติ”
นางสาวนัยรัตน์ กล่าวว่า การยกระดับระบบการทำงานที่ด่านศุลกากรเบตงเป็นการพัฒนาระบบการทางานสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวที่ได้เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวในเขตพื้นที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ให้เติบโตขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยเชื่อมโยงและส่งเสริมเศรษฐกิจของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อย่างยั่งยืน


