xs
xsm
sm
md
lg

อดีตแม่ค้าออนไลน์ ผันตัวเป็นมิจฯ ส่งสินค้าเก็บเงินปลายทางทั่วไทย เงินสะพัดวันละเกือบ 1 แสนบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อดีตแม่ค้าออนไลน์ ผันตัวเป็นมิจฉาชีพส่งสินค้าเก็บเงินปลายทางทั่วไทย ทั้งที่ผู้รับไม่ได้สั่งซื้อสินค้า โดยได้รายชื่อลูกค้ามาจากบริษัทขนส่งเอกชน ยึดของกลางกว่า 2 หมื่นชิ้น ถ้าส่งได้หมดมดจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท พบเงินสะพัดวันละเกือบแสนบาท


เมื่อเวลา 20.00 น. วันนี้ (16 พ.ย.) ที่สนามบาสเกตบอล โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชาตรี ชูแก้ว ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.อรรถวัฒน์ สุวรรณรัตน์ รองผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต และ พ.ต.ต.กันต์ อักษรทอง สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต และชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวการเข้าตรวจสอบโกดังต้องสงสัยว่า อาจมีสิ่งผิดกฎหมาย ตั้งอยู่เลขที่ 143/96 โบ๊ทพลาซ่า ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต หลังสืบทราบว่าผู้ต้องสงสัยมาเช่าอาคารดังกล่าวไว้ เพื่อทำเป็นโกดังส่งสินค้าที่ไม่ถูกต้องโดยที่ลูกค้าไม่ได้สมัครใจในการสั่งซื้อ และยังพบว่าผู้ต้องสงสัยมีเงินหมุนเวียนในแต่ละวัน 80,000 บาท


จากการตรวจสอบอาคารพาณิชย์ 1 คูหา ด้านหน้าเป็นกระจกใส เมื่อมองไปด้านในจะเห็นกล่องกระดาษสีน้ำตาลขนาดต่างๆวางกองอยู่เป็นจำนวนมาก ด้านนอกห้องเช่ายังมีถุงกระสอบขนาดใหญ่ ภายในมีกล่องกระดาษบรรจุอยู่วางเรียงรายเป็นจำนวนมาก โดยมีผู้ต้องสัยที่เป็นหญิงสาวและคนงานจำนวนหนึ่ง กำลังก้มหน้าก้มตาแพคสิ่งของใส่กล่องกระดาษอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเพื่อขอเข้าตรวจค้น ทำให้หญิงสาวผู้ต้องสงสัย ซึ่งมีรูปพรรณตรงตามที่สายแจ้งเบาะแสมายังชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ถึงกับตกใจ เจ้าหน้าที่ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.มุข อายุ 31 ปี ชาว จ.ตรัง


จากการตรวจสอบสิ่งของที่อยู่ในลังและกล่องกระดาษขนาดต่างๆ พบเป็นสินค้าหลากหลายชนิด เช่น สบู่ ครีมทาตัว มาสก์หน้า ครีมบำรุงผิว สายชาร์จโทรศัพท์ ของเล่นเด็ก รวมกว่า 20,000 ชิ้น เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดสินค้าทั้งหมด รวมไปถึงกล่องกระดาษที่มีการแพคเตรียมจัดส่งออกไปยังบ้านเรือนต่างๆ ทั่วประเทศ โดยสินค้าทั้งหมดจะเป็นการเรียกเก็บเงินปลายทางทั้งสิ้น โดยกล่องหนึ่งจะต้องจ่ายเงิน 259 บาท 

พร้อมประสาน อย.และสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค จ.ภูเก็ตตรวจสอบคุณภาพของสินค้าที่พบทั้งหมด ในเบื้องต้นพบว่าเป็นสินค้าที่ต่ำกว่าคุณภาพและบางตัวหมดอายุ


สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า น.ส.มุข อดีตเป็นแม่ค้าออนไลน์ ขายสินค้าทั่วไปผ่านโซเชียลมีเดีย จากนั้นได้ผันตัวมาซื้อสินค้าจากกรุงเทพฯ มาบรรจุลงกล่องที่ จ.ภูเก็ต ส่งไปตามบ้านเรือนของประชาชนทั่วประเทศ โดยมีการเก็บเงินปลายทางทั้งสิ้น ทั้งๆ ที่ประชาชนตามชื่อที่ติดสติ๊กเกอร์อยู่หน้ากล่องไม่ได้มีการสั่งซื้อจริง ซึ่งรายชื่อดังกล่าวเป็นรายชื่อลูกค้ามาจากบริษัทขนส่งเอกชน จากนั้นได้ปริ๊นต์ชื่อลูกค้าแล้วติดหน้ากล่องกระดาษที่ภายในมีสินค้าชนิดต่างๆ ก่อนจะว่าจ้างบริษัทขนส่งเอกชน นำส่งไปยังบ้านเรือนประชาชนทั่วประเทศ 


ซึ่งลูกค้าที่ระบุชื่อไว้บางส่วนก็รับบางส่วนก็ไม่รับเนื่องจากไม่ได้สั่งสินค้า ก็จะตีกลับมายังบริษัทขนส่งเอกชนรายดังกล่าว จากนั้นขนส่งจะนำกลับมาส่งที่โกดังที่ผู้ต้องหาเช่าไว้ หลังจากสิ้นค้าถูกตีกลับก็จะนำไปใส่กล่อง เพื่อจัดส่งไปยังรายชื่ออื่นๆ ต่อไป จนมีรายได้ต่อวัน 80,000 บาท ซึ่งทำมาตั้งแต่เดือน ส.ค.67 จนถึงปัจจุบัน โดยก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าจับกุมได้มีการจัดส่งสินค้าออกไปแล้วกว่า 2,000 ชิ้น


หลังจากตรวจสอบและสอบสวนในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผิ้ต้องหา พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต และ แจ้งข้อหาเบื้องต้นขายเครื่องสำอางที่มิได้จดแจ้ง มีความผิดตามมาตรา 32(1) โทษตามมาตรา 78 วรรค 1 ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และ ขายเครื่องสำอางที่ฉลากไม่ใช้ข้อความภาษาไทย มีความผิดตามมาตรา 22 วรรค 2(2) และ มาตรา 32(4) โทษตามมาตรา 68 วรรค 2 จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล ซึ่งถ้าพบความผิดจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีกครั้ง


สำหรับของกลางที่ตรวจยึดได้มีมากถึง 20,829 ชิ้น แบ่งเป็น 1.สินค้าผิดกฎหมายจำนวน 7,492 ชิ้น 2.อุปกรณ์พัสดุจำนวน 5,223 ชิ้น 3.พัสดุที่แพ็กแล้วจำนวน 3,890 ชิ้น 4.พัสดุพร้อมส่งจำนวน 1,099 ชิ้น 5.พัสดุตีกลับจำนวน 3,125 ชิ้น 

ทั้งนี้ หากส่งสินค้าซึ่งมีการเรียกเก็บเงินปลายทางไปยังบ้านลูกค้าได้ทั้งหมดในราคาเฉลี่ยกล่องละ 150 บาท ก็จะได้รับเงินกว่า 3.1 ล้านบาท ซึ่งสินค้าที่แพ๊คลงกล่องส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าประเภทเครื่องสำอางค์นำเข้ามาจากต่างประเทศในราคาถูก










กำลังโหลดความคิดเห็น