xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจท่องเที่ยวบุกจับหนุ่มเช็ก เปิดบริษัทนำเที่ยวเถื่อน แย่งอาชีพคนไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สุราษฎร์ธานี - ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันร่วมฝ่ายปกครอง และ สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวฯ บุกจับ "ทัวร์เถื่อน" ต่างชาติ แย่งอาชีพคนไทย โดยไม่มีใบอนุญาติ บนเกาะพะงัน

วันนี้ (7 พ.ย.68 ) พล.ต.ท.ศักดิ์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สว.ส.ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 ประสานความร่วมมือกับ กรมการท่องเที่ยว (สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้ เขต 1 และกลุ่มตรวจธุรกิจนำเที่ยวฯ) ฝ่ายปกครองอำเภอเกาะพะงัน ร่วมกัน กวาดล้างและปราบปรามการประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต และเข้าข่ายใช้คนไทยเป็นนอมินี

โดยเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจสอบ และ จับกุม นายยัน ซาบาลกา หรือ นายแจน คาบัลก้า (MR.JAN CABALKA) อายุ 52 ปี สัญชาติ เช็ก (Czech Republic) บริษัท เนเจอร์ เอสแคป จำกัด ซึ่งตั้งอยู่บ้านเลขที่ 106/47 ม.7 ต.เกาะพะงัน จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่า บริษัท เนเจอร์ เอสแคป จำกัด ที่มีการติดป้ายประกาศด้านหน้า ได้ถูกยกเลิกใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว เลขที่ 43/00897 ไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2566


จากการตรวจสอบ พบหลักฐานต่างๆ การประกอบธุรกิจนำเที่ยว เช่น โปรชัวร์รายการนำเที่ยว พร้อมราคา และ เอกสารแสดงรายละเอียดราคาแพ็คเกจ เช่น ทริปดำน้ำที่ภูเก็ต เขาหลัก พังงา พร้อมบริการห้องพัก บิลใบเสร็จ/บิลเงินสด การจองห้องพักและค่าอาหาร / เครื่องดื่ม และ ป้ายชื่อสีเขียว ระบุข้อความเป็นภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ อาทิ SCUBA Driving & Snorkelling Jungle Trackking (ดำน้ำลึก ดำน้ำตื้น เดินป่า และกิจกรรมผจญภัยอื่นๆ และ หลักฐานการสนทนาในแอปพลิเคชัน WhatsApp ที่พบการพูดคุยกับบัญชี "Chaloklum Diving Whats..." เกี่ยวกับการส่งลูกค้าและ รับค่าตอบแทน 500 บาทต่อใบเสร็จ ในฐานะตัวแทนขายทัวร์ให้กับบริษัทอื่น

จากการสอบปากคำ นายแจน คาบัลก้า ยอมรับว่า ตนไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวที่ถูกต้อง และการประกอบอาชีพดังกล่าวเป็น อาชีพสงวนไว้ให้แก่คนไทยเท่านั้น โดยระบุว่าตนเองทำงานเป็นตัวแทนขายรายการนำเที่ยวให้กับห้างหุ้นส่วนนำเที่ยวแห่งหนึ่ง และได้รับค่าตอบแทน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อหา “ ประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต , เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ์จะทำได้ (ประกอบธุรกิจนำเที่ยวฯ)" พร้อมทั้งทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สว.ส.ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 เปิดเผยว่า ผบช.ทท. กำชับในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว เร่งให้ร่วมมือกวาดล้างการกระทำผิดของกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาแฝงตัวก่ออาชญากรรมทุกรูปแบบ ให้ดำเนินคดีเด็ดขาดไม่เว้นทุกกรณี พร้อมทั้งให้ประสานความร่วมมือกับ กรมการท่องเที่ยว (สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้ เขต 1 และกลุ่มตรวจธุรกิจนำเที่ยวฯ) ร่วมกันกวาดล้างและปราบปรามการประกอบธุรกิจนำเที่ยว โดยไม่ได้รับอนุญาต และเข้าข่ายใช้คนไทยเป็นนอมินี โดยเน้นย้ำตามนโยบายให้ "ต้องไม่มีทัวร์เถื่อน" ในพื้นที่อย่างเด็ดขาด


กำลังโหลดความคิดเห็น