นครศรีธรรมราช - ศูนย์ความเป็นเลิศนิเวศวิทยาพยากรณ์และการจัดการ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เผยภาพถ่ายแม่น้ำปากพนังจากดาวเทียมของนาซ่า พบเป็นสีเขียวอมฟ้าเข้มตลอดแนวระยะทางกว่า 120 กิโลเมตร ชี้หมดความเป็นแม่น้ำถูกรุกรานด้วยวัชพืชในระดับรุนแรง
วันนี้ (6 พ.ย.) ที่ศูนย์ความเป็นเลิศนิเวศวิทยาพยากรณ์และการจัดการ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ได้มีการนำภาพถ่ายจากดาวเทียมแม่น้ำปากพนังที่เป็นสายสีเขียวอมฟ้าเข้ม จากระบบ “คอเปอร์นิคัส” (Copernicus) โดยองค์การนาซ่า มาใช้ติดตามความเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์และนิเวศน์ทั่วโลก โดยรองศาสตราจารย์ดอกเตอร์กฤษณะเดช เจริญสุธาสิริ ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศนิเวศวิทยาพยากรณ์และการจัดการ ได้นำมาติดตามความเปลี่ยนแปลงของลุ่มน้ำปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช
จากเส้นสีเขียวอมฟ้าเข้มตลอดแม่น้ำปากพนังยาวกว่า 120 กิโลเมตรจากปากอ่าวปากพนังย้อนไปจนถึงอำเภอเชียรใหญ่ อำเภอชะอวด ไปจนถึงต้นน้ำซึ่งเป็นแหล่งน้ำของทะเลน้อยจังหวัดพัทลุง สงขลา และลุ่มน้ำปากพนังนครศรีธรรมราช แปลจากสีสภาพนิเวศน์คือสูญเสียสภาพความเป็นแม่น้ำถูกรุกรานด้วยวัชพืชและความตื้นเขินที่อยู่ในระดับรุนแรงมาก บ่งชี้ถึงความสูญเสียสภาพในระบบนิเวศน์ น้ำจืดน้ำกร่อย น้ำเค็ม และน้ำเปรี้ยวที่ซับซ้อน โดย รศ.ดร.กฤษณะเดช ยืนยันว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้นต้องยอมรับว่าไม่สามารถรอเพียงภาคราชการเพื่อแก้ไขปัญหาได้แล้ว
หลังจากมีการเปิดเผยภาพผักตบชวาจำนวนมหาศาล บริเวณเหนือประตูระบายน้ำอุทกวิภาชน์ประสิทธิ์ ในแม่น้ำปากพนัง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช จนเป็นผลให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบต้องเร่งระดมเครื่องจักรกลหนักเข้าทำการรื้อเก็บผักตบชวาอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นเพียงการดำเนินการเฉพาะจุดที่ถูกบันทึกภาพเผยแพร่เท่านั้น แต่เมื่อมีการสำรวจลำคลองสาขาในพื้นที่ชั้นในของลุ่มน้ำปากพนัง ในโซนตำบลเกาะทวด ตำบลชะเมา อำเภอปากพนัง พบว่าสภาพลำคลองทุกสายสูญเสียสภาพความเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติไปจนหมดแล้วเช่นกัน สภาพลำคลองถูกปกคลุมไปด้วยวัชพืชนานาชนิดแตกต่างจากลำคลองสายใหญ่ที่เต็มไปด้วยผักตบชวา แต่ในลำคลองสายย่อยพบกลุ่มพืชจำพวกไมยราพยักษ์ ผักกระฉูด ดีปลีน้ำ สาหร่ายน้ำจืด และกลุ่มหญ้าต่างๆ แน่นเต็มคลองจนไม่เห็นผิวน้ำ
ชาวบ้านในพื้นที่ริมคลองในตำบลชะเมา อำเภอปากพนัง ระบุว่าลำคลองมีความเปลี่ยนแปลงไปมากจากอดีตเมื่อหลายปีก่อนเป็นคลองน้ำไหล นำน้ำมาใช้ในพื้นที่เกษตรได้แต่หลังจากที่มีการทำประตูน้ำในคลองเล็กคลองน้อย คลองย่อยในพื้นที่กลายเป็นที่สะสมของวัชพืช นานๆ หลายปีสักครั้ง ปัจจุบันชาวบ้านจะใช้น้ำในคลองมารดผักต้องลงไปรื้อวัชพืชให้เป็นวงแล้วค่อยตักหรือสูบขึ้นมา ส่วนการหาปลาดักปลาตามวิถีนั้นทำไม่ได้แล้ว


