xs
xsm
sm
md
lg

สาวช่างเสริมสวยสุดทน! บุกยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ ให้เอาผิดทางวินัยผู้ใหญ่บ้านอดีตสามีที่เลิกรากันไปแล้ว แต่ยังตามขู่ฆ่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สุราษฎร์ธานี - สาวช่างเสริมสวยสุราษฎร์ธานีสุดทน บุกยื่นหนังสือผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานี ร้องขอให้ดำเนินการทางวินัยผู้ใหญ่บ้าน อดีตสามีที่เลิกกัน แต่ยังตามราวี ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย ขู่ฆ่าหากไม่ยินยอมให้ร่วมหลับนอน

เมื่อเวลา 10.00 น.(27 ต.ค.68 ) น.ส.รุ่งทิพย์ หรือ ต้องตา (ขอสงวนนามสกุล) ช่างเสริมสวย เปิดร้านบริการอยู่ในพื้นที่ หมู่ที่1 ตำบลท่าขนอน อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เพื่อขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนดำเนินเอาผิดทางวินัย ต่อ นายสราวุธ สุขอ่อน อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 10 ต.กะเปา อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี อดีตสามีที่คบกันมา 6 ปี

โดยผู้ร้องได้บอกว่า เมื่อปี 2562 ได้รู้จักกับผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว และต่อมาได้มาหลอกลวงนำพาไปเข้าโรงแรมพร้อมใช้กำลังล่วงละเมิดทางเพศ ทั้งๆที่มีภรรยาอยู่แล้ว หลังจากเกิดเหตุ ได้พูดจาข่มขู่ให้อยู่กินเป็นภรรยาน้อย โดยอ้างว่าภรรยาหลวงยินยอมให้มีภรรยาเพิ่มอีก 1 คน หากตนไม่ยินยอมอยู่กินกันแบบสามี-ภรรยา ก็จะทำร้ายตน ซึ่งตนเองมาเช่าบ้านเปิดร้านเสริมอยู่ในตลาดท่าขนอนเพียงคนเดียว เมื่อถูกนายสราวุธที่มีตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้านมีพฤติกรรมเป็นนักเลงมีบารมีและเป็นผู้นำชุมชน ตนก็กลัวความไม่ปลอดภัยในชีวิต จึงจำใจอยู่กินกันแบบสามี-ภรรยา โดยได้รับปากสัญญาว่าไม่ทิ้งขว้างจะดูแลอยู่จนแก่เฒ่ากัน


ต่อมานายสราวุธได้พูดจาหว่านล้อมเกลี่ยกล่อมชักชวนให้ตนซื้อบ้าน โดยแกบอกเชิงบังคับว่าเป็นเมียผู้ใหญ่บ้านต้องมีบ้านเป็นของตัวเอง สมฐานะเป็นเมียผู้ใหญ่บ้าน ตนก็บอกไปว่าถ้าซื้อบ้านแล้วพี่ต้องช่วยส่งน่ะตาคนเดียวส่งไม่ทัน แกก็รับปากว่าพี่ไม่ทิ้งพี่จะช่วยตลอด ตนจึงเชื่อในคำพูดจึงวิ่งเต้นหาเงินมาซื้อบ้านและทำสัญญาการเช่าซื้อผ่านธนาคาร ส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมดตนเป็นคนออกเพียงคนเดียว ในราคา 2,600,000 บาท โดยผ่อนส่งกับธนาคารแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี

แต่งหลังจากซื้อบ้านแล้ว ก็ไม่เคยช่วยเหลือด้านการเงิน แถมยังให้ตนดูแลค่าใช้จ่ายส่วนตัวอีกด้วย ระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา เริ่มมีพฤติกรรมหึงหวงหวาดระแวงผู้ชายทุกคนที่มาเป็นเพื่อน จนมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันบ่อยครั้ง ทุกครั้งที่มีเรื่องก็จะใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บเข้าโรงพยาบาลรักษาตัว สุดท้ายตนทนไม่ไหวต้องไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.คีรีรัฐนิคม เพื่อหวังให้ทางเจ้าหน้าที่เรียกมาตักเตือน แต่ก็ไม่เป็นผล และล่าสุดเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2568 ได้เกิดเหตุถูกทำร้ายร่างกายอีกครั้ง จึงเข้าแจ้ง ต่อ ร.ต.อ.อนิรุตร์ พลรักษ์ พนักงานสอบสวน สภ.คีรีรัฐนิคม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและมีความประสงค์ขอเลิก แต่นายสราวุธไม่ยอมเลิกยังตามราวีและข่มขู่จะเอาชีวิต

ตนจึงเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอคีรีรัฐนิคม ต่อมาทางปลัดอำเภอได้เรียกมาไกล่เกลี่ย โดยให้จ่ายเงินเยียวยาให้ตนจำนวน 100,000 บาท และขอให้ยุติความสัมพันธ์กับตนอย่างเด็ดขาด ซึ่งนายสราวุธก็รับปากและจ่ายเงินเยียวยาจำนวนดังกล่าว แต่หลังจากจ่ายเงินให้ตนแล้ว นายสราวุธ ไม่ยอมเลิกรา แต่กลับมีพฤติกรรมที่รุนแรงมากขึ้น และบุกเข้ามาในบ้านใช้กำลังข่มขู่ขอหลับนอนกับตน หากตนไม่ยินยอมก็จะฆ่าให้ตาย

วันนี้ตนไม่สามารถทนรับพฤติกรรมได้อีกต่อไป จึงขอความเมตตาท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง เพื่อขอให้ดำเนินการทางวินัยพร้อมขอให้มีคำสั่งห้ามนายสราวุธเข้ามายุ่งเกี่ยวกับตนอีก และขอความคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เนื่องจากทางอำเภอคีรีรัฐนิคมเคบไกล่เกลี่ยมาหลายครั้งแล้ว แต่ก็มาเกิดเหตุซ้ำซาก


กำลังโหลดความคิดเห็น