xs
xsm
sm
md
lg

สุดอาลัย! ชาวบ้านบ้านหัวป่าเขียว จ.พัทลุง ร่วมสำนึกพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พัทลุง – ชาวบ้านบ้านหัวป่าเขียว ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยพระเมตตาที่ทรงสร้างอาชีพให้ชาวบ้านพออยู่พอกินถึงทุกวันนี้

วันนี้ (26 ต.ค.) ที่ศูนย์ศิลปาชีพบ้านหัวป่าเขียว ได้แสดงความอาลัยภายหลัง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จสวรรคต ด้วยการลดธงครึ่งเสาแสดงความอาลัยและเคารพรักในพระองค์ท่าน ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ที่ได้พระราชทานอาชีพให้เกษตรกรชาวบ้านในพื้นที่บ้านหัวป่าเขียว ม.7 ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ได้มีอาชีพศิลปหัตกรรม สร้างงานศิลปาชีพ สร้างรายได้ที่ยั่งยืน หาเลี้ยงครอบครัวให้พออยู่พอกินมาถึงทุกวันนี้


โดยเมื่อ 25 ตุลาคม 2542 สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎรบ้านหัวป่าเขียว หมู่ 7 ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ซึ่งเป็นหมู่บ้านในชนบทอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มป่าพรุที่ห่างไกลความเจริญ และวโรกาสนั้น พระองค์ฯ ทรงพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ราษฎรเข้าเฝ้า เพื่อสอบถามถึงความเป็นอยู่และอาชีพที่ทำรายได้ให้กับครอบครัว เมื่อทรงทราบว่าราษฎรมีความเป็นอยู่ที่ลำบากเพราะมีรายได้ต่ำ ทั้งนี้ยังประกอบอาชีพหลักมีเพียงการทำนาและประมงขนาดเล็ก รายได้ไม่แน่นอน ซึ่งส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับผลผลิตของแต่ละปีและสภาพลมฟ้าอากาศ

ประกอบกับดินบางแห่งเป็นดินเปรี้ยวไม่สามารถใช้เป็นพื้นที่ในการทำนาได้ ทำให้ผลผลิตน้อยเศรษฐกิจโดยรวมตกต่ำ และทรงทราบว่าหลังจากราษฎรประกอบอาชีพในแต่ละวันแล้ว ยังมีการประกอบอาชีพเสริมคือการสานเสื่อกระจูดเพียงอย่างเดียว และยังขาดความรู้ความสามารถในการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากกระจูดจึงทรงมีพระราชเสาวนีย์ที่จะให้ความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรในพื้นที่ ดังนี้ โดยจัดตั้งเป็นศูนย์ศิลปาชีพ ให้ราษฎรได้ฝึกวิชาชีพเสริม ตามความสมัครใจในหลายสาขาอาชีพ โดยทรงพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ รับราษฎรบ้านหัวป่าเขียวและหมู่บ้านใกล้เคียงไว้เป็นสมาชิกโครงการศูนย์ศิลปาชีพบ้านหัวป่าเขียว


ด้าน นางโสภา ทองเกลี้ยง 45 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิกุล ที่เคยได้รับจากพระองค์ ครั้งเสด็จทรงงานบ้านหัวป่าเขียว จริงแล้วบ้านหัวป่าเขียวเป็นหมู่บ้านที่กันดารมาก และมีความยากจนที่สุดของจังหวัด แต่หลังพระองค์เสด็จ ทุกอย่างพัฒนาดีขึ้น ชาวบ้านมีอาชีพ มีรายได้ อยู่ดีกินดีจนถึงทุกวันนี้ พระองค์เสด็จมาครั้งแรกเมื่อปี 2542 ที่นี่ยังไม่มีถนน พระองค์ใช้รถในการเดินทาง วันที่เสด็จฝนตกหนัก ชาวบ้านช่วยกันนำเปลือกไม้เสม็ดมารองพื้นถนน ยังเป็นภาพประทับใจ แม้จะธุรกันดารขนาดไหน ลำบากเท่าไหร่ แต่พระองค์ไม่เคยทิ้งพวกเรา

ขณะที่ นายสุธน ลอยลิบ อายุ 66 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหัวป่าเขียว หลังทราบข่าว พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย ยังคงเศร้า และน้ำตาไหลออกมาทุกครั้งเมื่อนึกถึงพระองค์ ครั้นที่เสด็จลงมายังบ้านหัวป่าเขียว จากพื้นที่ธุระกันดาร ไม่มีถนน ไม่มีสาธารณุขั้นพื้นฐาน ด้วยพระปรีชาของพระองค์ จนทำให้ชาวบ้านที่นี่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น






กำลังโหลดความคิดเห็น