นราธิวาส - ระเบิดร้านน้ำชา “ยี่งอ” ยอดเสียชีวิตเพิ่มรวมเป็น 2 ราย เป็นชายวัย 29 ปี ตำรวจลงพื้นที่สร้างความเข้าใจ ชาวบ้านร่วมต้านความรุนแรง ชี้คนร้ายมุ่งเป้าทำร้ายประชาชน
จากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องบริเวณริมถนนสายเทศบาลยี่งอ-ต้นไม้ใหญ่ หน้าร้านน้ำชาในพื้นที่ ม.1 ต.ยี่งอ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2568 ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บเบื้องต้น 17 ราย และสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินนั้น ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นรวมเป็น 2 รายแล้ว คือ น.ส.รอเมาะ ตาเลงปะลา อายุ 79 ปี ซึ่งมีบาดแผลทะลุบริเวณหน้าท้องและบาดแผลฉีกขาดหลายแห่ง เสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 68 เวลา 06.40 น. และ นายมูฮัมหมัดไซฟู สะนิ อายุ 29 ปี ซึ่งมีบาดแผลฉีกขาดบริเวณศีรษะ สมองไหล เสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 68 เวลา 07.40 น. ทั้งสองรายเสียชีวิตที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
ล่าสุดวันนี้ (20 ต.ค.) พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง ผกก.สภ.ยี่งอ พร้อมด้วย พ.ต.ท.หญิง เสาวลักษณ์ ตรีมรรค หัวหน้างาน กร.ศปก.ตร.สน. และ พ.ต.ท.หญิง สุนิดา วาสนารักษ์ เจ้าหน้าที่งาน กร.ศปก.ตร.สน. รวมทั้งทีมโฆษกตำรวจภูธรภาค 9 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยี่งอ ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจและรณรงค์ต่อต้านความรุนแรงร่วมกับทีมโฆษกชาวบ้านจังหวัดนราธิวาส และประชาชนในพื้นที่ตำบลยี่งอ รณรงค์ต่อต้านความรุนแรงทุกรูปแบบ
จากนั้น คณะได้เดินทางเข้าเยี่ยม นายอัลอามาน เจะและ หนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อให้กำลังใจแก่ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบและติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง ผกก.สภ.ยี่งอ เปิดเผยว่า จุดที่คนร้ายวางระเบิดเป็นเส้นทางหลักที่ข้าราชการและประชาชนใช้สัญจรเพื่อไปทำงานในห้วงเช้า และยังเป็นจุดที่มีบ้านเรือนประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นพื้นที่ที่มีพี่น้องมุสลิมอาศัยอยู่ 100% เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าผู้ก่อเหตุความรุนแรงมุ่งเป้าทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยายเมาะ ผู้เสียชีวิต ที่นั่งรอรถขายปลาอยู่ห่างจากจุดระเบิดเพียง 10 เมตร และผู้ที่ขับรถผ่านมาในช่วงเกิดเหตุ ซึ่งล่าสุดมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 2 ราย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งดูแลประชาชนเพื่อให้เกิดความสงบสุขในพื้นที่ และฝากถึงผู้ก่อเหตุว่าอย่าได้สร้างความเดือดร้อนในพื้นที่พหุวัฒนธรรมนี้
“พื้นที่ที่เราอยู่เป็นชุมชนพหุวัฒนธรรม โดยเฉพาะจุดเกิดเหตุเป็นหมู่บ้านที่พี่น้องมุสลิมอาศัยอยู่เกือบทั้งหมด ขออย่าได้ก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้บริสุทธิ์ ตำรวจจะทำหน้าที่ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดความสงบสุขในพื้นที่” พ.ต.อ.นราวี กล่าว
ด้าน นางซารีนา เจ๊ะเลาะ ประธานชมรมผู้นำมุสลีมะห์นราธิวาส ได้กล่าวแสดงความรู้สึกต่อต้านความรุนแรง และร่วมรณรงค์เรียกร้องให้ยุติเหตุการณ์เหล่านี้ โดยระบุว่าถึงแม้ผู้สูญเสียจะไม่ใช่ญาติ แต่ทุกคนต้องร่วมกันปกป้องดูแลพื้นที่ให้เกิดความสงบสุข
หลังจากนั้น ชาวบ้านและกลุ่มสตรีในพื้นที่ได้ร่วมกันเดินรณรงค์ พร้อมชูป้ายแสดงเจตนารมณ์ต่อต้านความรุนแรงทุกรูปแบบ อาทิ "ขอให้ยุติความรุนแรงในพื้นที่ทุกรูปแบบ" "หยุดทำร้ายประเทศไทย" "หยุดใช้ความรุนแรง" และ "พลังประชาชนปฏิเสธความรุนแรง"
ในส่วนของความคืบหน้าทางคดี แหล่งข่าวความมั่นคงเปิดเผยว่า กลุ่มที่เคลื่อนไหวในพื้นที่และน่าจะเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุครั้งนี้ คือ นายอดัม เจ๊ะเลาะ แกนนำระดับปฏิบัติการที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.ยี่งอ อ.บาเจาะ และ อ.ระแงะ มีหมายจับในคดีความมั่นคง 4 หมาย ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลติดตามตัวผู้ก่อเหตุ