กระบี่ - ลูกสาวผู้เสียชีวิตจากเหตุหัวใจวายเฉียบพลัน ขณะต้องนำตัวส่งต่อโรงพยาบาล แต่มีรถกระบะจอดปิดท้าย แม้เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ถอยรถแต่ไม่รีบดำเนินการ ทำให้การส่งต่อล่าช้า เข้าแจ้งความเอาผิดคนขับรถกระบะแล้ว
จากกรณีเกิดดราม่าร้อนบนโซเชียล หลังมีการเผยแพร่เหตุการณ์ที่โรงพยาบาลปลายพระยา ที่มีรถกระบะจอดขวางรถฉุกเฉิน ซึ่งเร่งส่งผู้ป่วยวิกฤต ด้วยอาการโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน และมีภาวะการหายใจล้มเหลว ไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลกระบี่ โดยที่ลูกสาว ของผู้ป่วยวิกฤต ทรุดไหว้ขอให้หลีกทาง แต่คนขับรถกระบะยังถกเถียงกับเจ้าหน้าที่ โวยวายว่าไม่มีใครมาบริการแม่ตนเอง แม้ภายหลังจะยอมย้ายรถก็ตาม แต่สุดท้ายผู้ป่วยวิกฤตหัวใจล้มเหลวเสียชีวิต และ ทางโรงพยาบาลออกมาแถลงข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว
ล่าสุด น.ส.ภัทราพร อายุ 29 ปี ลูกสาวผู้เสียชีวิตได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ปลายพระยา ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ว่า เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2568 เวลาประมาณ 22.19 น. ตนเองได้พา นายสมควร อายุ 69 ปี ซึ่งเป็นบิดามาหาหมอที่โรงพยาบาลปลายพระยา เพื่อพาบิดาเข้าทำการรักษาอาการป่วยเนื่องจาก แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก
ต่อมาทางโรงพยาบาลได้แจ้งว่าต้องส่งตัวบิดา ด่วน เพื่อไปทำการรักษาตัวต่อที่ โรงพยาบาลกระบี่ และระหว่างที่ทางเจ้าหน้าที่ได้เข็น บิดาของตนที่นอนอยู่บนเตียงเพื่อขึ้นรถของโรงพยาบาลปลายพระยา เพื่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาลกระบี่ ซึ่งจะต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
แต่ปรากกฏว่ามีรถยนต์กระบะ จอดขวางชิดติดกับประตูขึ้นรถด้านหลัง ทำให้ไม่สามารถพาบิดาขึ้นรถได้ ขณะนั้น โดยรถคันดังกล่าว เป็นรถของญาติผู้ป่วย ซึ่งทราบภายหลังว่าพาแม่ มารักษาตัวที่โรงพยาบาลปลายพระยาในขณะนั้นด้วย แต่ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวไม่ได้อยู่ที่รถ และไม่ยอมเลื่อนรถออกให้ และมีการต่อว่ากับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลปลายพระยาเป็นเวลานาน
ซึ่งตนเมื่อเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว ก็ได้ทรุดนั่งลงและยกมือไหว้ คนขับรถคันดังกล่าว ให้ช่วยถอยรถออกไปก่อน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลฯ ได้นำบิดา ของตนขึ้นรถโรงพยาบาลได้
แต่ระหว่างนั้นคนขับรถกระบะคันดังกล่าว ยังมีการโต้เถียงอยู่กับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ไม่ได้ยอมเลื่อนรถออกไปทันที แม้ว่าต่อมา คนขับขี่รถคันดังกล่าว ได้เดินไปเปิดประตูรถแต่ก็ยังไม่ขับออกไป และยังมีการโต้เถียงอยู่อีก จนมีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลบอกว่า หากยังไม่ยอมถอยรถออก จะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงยอมถอยรถออกไป แต่ก็สายเกินไปผู้ป่วยได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
สำหรับการเดินทางมาในครั้งนี้ ตนได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อจะได้ให้ทางโรงพยาบาบาลปลายพระยาประกอบเป็นหลักฐานในการที่จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป