ศูนย์ข่าวภูเก็ต – ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภูเก็ตเชื่อไฮซีซั่นปีนี้ ท่องเที่ยวภูเก็ตคึกคัก นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าสูงกว่าปีที่แล้ว ยอดจองห้องพักล่วงหน้าพุ่ง คาดอัตราเข้าพักเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 80-90% รัสเซียยังมาเป็นอันดับหนึ่งตามมาด้วยตลาดยุโรป
นายรังสิมันต์ กิ่งแก้ว ประธานสภาอุตสหรกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงแนวโน้มการท่องเที่ยวภูเก็ตในช่วงไฮซีซั่นที่กำลังจะมาถึงในช่วงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป ว่า การท่องเที่ยวของภูเก็ตในช่วงไฮซีซั่นที่จะถึงนี้ถือว่าแนวโน้มดีมาก อัตราการจองห้องพักโรงแรมล่วงหน้าอยู่ในอัตราที่สูง ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาน่าจะไร่เรี่ยหรือสูงกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย เนื่องจากโครงสร้างตลาดที่เปลี่ยนจากกรีนซีซั่นที่โดยปกติแล้วจะเป็นตลาดจีนเป็นหลัก แต่ปีนี้ตลาดจีนได้ลดลงไปค่อนข้างมาก แต่ช่วงไฮซีซั่นตลาดหลักๆ จะเป็นยุโรป รัสเซีย เข้ามาค่อนข้างสูง แม้แต่ตลาดอังกฤษ อเมริกา ยังให้การตอบภูเก็ตค่อนข้างดี
ทำให้อัตราการจองห้องพักโรงแรมในภูเก็ตขยับเพิ่มขึ้น โดยโรงแรมขนาดใหญ่อัตราเข้าพักค่อนข้างดีไม่มีอะไรน่ากังวล อยู่ที่ 80-90% ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม แต่ไฮซีซั่นปีนี้น่าจะแผ่วลงเร็วกว่าที่ผ่านมา เนื่องจากเทศกาลอีสเตอร์และตรุษจีนจะเร็วกว่าปกติ ทำให้นักท่องเที่ยวมาเข้ามามากในช่วงเดือนเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ ซึ่งจะเป็นช่วงที่การท่องเที่ยวของภูเก็ตเติบโตสูง
ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาในช่วงไฮซีซั่นนี้ ว่า รัสเซียจะเข้ามาเป็นอันดับหนึ่ง ตามมาด้วยกลุ่มยุโรป ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส รวมถึงตลาดอินเดียและตลาดอิสราเอล ที่เข้ามาภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดอินเดียในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เติบโตใกล้จะแซงตลาดจีนแล้วในปีนี้
ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภูเก็ต ยังกล่าวถึงความพร้อมของภูเก็ตในการรองรับนักท่องเที่ยว ว่า ต้องยอมรับความจริงว่าโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ ของภูเก็ตค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามา ทั้งในเรื่องของถนนหนทาง น้ำ ไฟฟ้า ขยะ โดยเฉพาะปัญหาการจราจรถือว่าหนักหนาสาหัสมากในช่วงที่นักท่องเที่ยวเข้ามามากในช่วงไฮซีซั่นจะเห็นว่ามีรถป้ายต่างจังหวัดเข้ามาวิ่งมาในภูเก็ตมากขึ้น ทั้งรถของคนที่เข้ามาทำงานและรถที่ให้บริการนักท่องเที่ยว น่าจะเป็นปัญหาที่ภูเก็ตจะต้องเจออย่างแน่นอนในไฮซีซั่นนี้
“ที่ผ่านมาทางจังหวัดภูเก็ตได้นำเสนอปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐานไม่เพียงพอต่อการรองรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในหลายๆเรื่องไปยังรัฐบาลเพื่อขอการจัดสรรงบประมาณมาดำเนินการแก้ไขปัญหา แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่จะสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้ คือ การให้ภูเก็ตได้มีโอกาสในการจัดสรรงบประมาณด้วยตัวเองมากขึ้น เพราะปัญหาหลายเรื่องที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้หากใช้งบประมาณตามระบบปกติจะต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหาไม่ต่ำกว่า 3-6 ปี ทำให้ปัญหาเก่ายังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาใหม่ก็เกิดขึ้นอีก ทำให้ภูเก็ตมีปัญหาสะสมไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้รับการแก้ไข เช่น ปัญหาขยะมูลฝอยที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขมีปัญหาขยะตกค้างแม้ว่าเราจะอยู่ในช่วงโลว์ซีซั่นวันละ 1,200 ตัน ซึ่งในช่วงไฮซีซั่นที่กำลังจะมาถึงนี้ เชื่อว่าขยะก็จะเพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่าวันละ 1,500 ตัน ก็จะทำให้มีขยะที่ไม่สามารถเข้าสู่เตาเผาขยะได้วันละ 800 ตัน ยิ่งจะทำให้เกิดปัญหาต่อไปอีก” นายรังสิมันต์ กล่าวในที่สุด