สุราษฎร์ธานี - รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ลุยแก้ปัญหาแย่งชิงพื้นที่เลี้ยงหอยแครงที่เรื้อรังมานาน โดยตัวแทนกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงหอยแครง ได้ยื่นหนังสือขอให้เจ้าท่า เร่งออกใบอนุญาตก่อสร้างขนำเฝ้าคอกหอย รองนายก โปรยยาหอม 2 เดือนจบ
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (10 ต.ค. 68) นายพิพัฒน์ รัชกิจการ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะได้เดินทางไปยัง ศาลาเอนกประสงค์วัดประสิทธาราม ต.บางชนะ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อพบปะเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงหอยทะเลในพื้นที่ อ่าวบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี และ สำรวจพื้นที่อนุญาตปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ โดยมีนายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี รายงานสถานการณ์การแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินและการบริหารจัดการพื้นที่ อ่าวบ้านดอน
ว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีพื้นที่ที่เพาะเลี้ยงหอยทะเลเป็นจำนวนมาก อาทิ หอยนางรม หอยแครง หอยแมลงภู่ ซึ่งหอยทะเลเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและชุมชนในจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะหอยนางรมสุราษฎร์ธานี ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2549 ซึ่งจากข้อมูลสำนักงานประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานี พบว่า ตามประกาศคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี เรื่อง การกำหนดเขตเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม ประเภท การเพาะเลี้ยงหอยทะเล (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566 จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีพื้นที่ที่สามารถออกใบอนุญาตให้เพาะเลี้ยงหอยทะเลได้ ในพื้นที่ 7 อำเภอ รวม 13 แปลง เนื้อที่ 85,698.88 ไร่ ซึ่งได้ออกใบอนุญาตให้กับเกษตรกรแล้ว จำนวน 1,702 ราย รวมเนื้อที่ 47,520.67 ไร่
แต่ที่ผ่านมายังมีการก่อสร้างโรงเรือน ผนังเบี่ยงเบนสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ เนื่องจากมีข้อจำกัดในด้านข้อกฎหมายและเป็นอุปสรรคสำหรับเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงหอยทะเล ในการเฝ้าระวังดูแลทรัพย์สิน การตรวจสอบสภาพหอย หรือการซ่อมแซมอุปกรณ์ หรือปรับปรุงสภาพแวดล้อมภายในแปลงเพาะเลี้ยงหอยทะเล
โดยจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีนโยบายที่จะดำเนินการให้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงหอยทะเล ยื่นคำขออนุญาตให้มีสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ ประเภท "ซุ้มเฝ้าหอย" ในแปลงเพาะเลี้ยงหอยทะเล ตามกฎหมายของกรมเจ้าท่า เพื่อให้เกษตรกรได้รับอนุญาตให้เพาะเลี้ยงหอยทะเลในพื้นที่อำเภอดอน ได้มีที่พักอาศัยในการเฝ้าทรัพย์สิน อันจะเป็นการลดปัญหาการบุกรุกพื้นที่สาธารณะ และลดความขัดแย้งกับกลุ่มมาพบปะประชาชนที่ใช้พื้นที่ร่วมกัน
ในขณะเดียวกัน นายจิโรช เผือกเกลี้ยง ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงหอยแครง และ นายนิตินันท์ ทองเคร็ง ทนายความกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงหอยสุราษฎร์ธานี ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกรณี เกษตรกรผู้เลี้ยงหอยในพื้นอนุญาตเดิมจำนวน 90 รายได้ต่อสู้ทางศาลศาลปกครองมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 จนล่าสุดศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งให้กรมเจ้าท่าอนุญาตให้กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงหอยทั้ง 90 ราย ก่อสร้างขนำเฝ้าหอยแครงได้
แต่ปัจจุบันยังไม่ได้รับการอนุญาต ในขณะที่ทางจังหวัดได้จัดสรรพื้นที่เพาะเลี้ยงเพิ่มขึ้น ทำให้มีเกษตรกรผู้เลี้ยงหอยแครงทั้งเก่าและใหม่กว่า 1,000 ราย ยังไม่มีสิทธิในการได้รับอนุญาตจึงร้องขอความเป็นธรรมเพื่อทางราชการปลดล็อคเปิดโอกาสให้กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงหอยเหล่านี้ได้มีโอกาสก่อสร้างขนำเฝ้าหอยในทะเลต่อไป
นายพิพัฒน์ รัชกิจการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า วันนี้ ตนและคณะเดินทางมา เพื่อรับฟังปัญหา และร่วมหาทางออกที่เป็นธรรม ถูกต้องตามกฎหมาย ให้ยั่งยืนในระยะยาว โดยมีหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องร่วมด้วย เช่น กรมเจ้าท่า กรมประมง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึงฝ่ายปกครองในพื้นที่บูรณาการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดแนวทางที่ชัดเจนเพื่อให้พี่น้องเกษตรกรได้ทำอาชีพอย่างมั่นคง ปลอดภัย
โดยมีเป้าหมายคือการ พัฒนาอ่าวบ้านดอนให้เป็น "แหล่งผลิตอาหารทะเลคุณภาพระดับโลก" ส่วนการอนุญาตการก่อสร้างขนำเฝ้าคอกหอยในพื้นที่ที่ได้รับการอนุญาตที่ยังล่าช้า ตนรับปากกับกลุ่มเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงหอยแครงภายใน 2 เดือนน่าจะจบสิ้น โดยใช้พื้นที่ก่อสร้างได้ไม่เกิน 5 เมตรคูณ 5 เมตร หรือ 25 ตารางวา
จากนั้นคณะรองนายกรัฐมนตรีนั่งเรือออกดูพื้นที่อ่าวบ้านดอนโดยใช้เวลาประมาณ 1ชั่วโมงจึงเดินทางกลับเข้าฝั่ง