นราธิวาส – คืบหน้าเหตุกลุ่มคนร้ายบุกปล้นร้านทองภายในห้างบิ๊กซี สาขาสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ตำรวจทราบผลตรวจดีเอ็นเอคนร้ายแล้ว 3 ใน 10 รายที่ลงมือก่อเหตุ
วันนี้ (8 ต.ค.) ความคืบหน้าเหตุกลุ่มคนร้ายแต่งกายชุดพร้อมอาวุธปืนครบมือ บุกปล้นร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ซึ่งตั้งอยู่ภายในห้างบิ๊กซี สาขาสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และยิง ส.อ.บุริศวร์ ระดาชัย เจ้าหน้าที่ทหารชุดปฏิบัติการรบพิเศษที่ 408 ได้รับบาดเจ็บ ขณะเข้าไปขัดขวางกลุ่มคนร้าย ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะกวาดทองรูปพรรณน้ำหนักรวม 600 บาทไปได้ โดยได้วางวัตถุระเบิดเพื่อสกัดกั้นการติดตามของเจ้าหน้าที่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ต.ค.68 ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด แหล่งข่าวชุดคลี่คลายคดีความมั่นคงเปิดเผยว่า ผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ DNA ของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ที่เก็บรวบรวมได้จากร้านทองเยาวราชกรุงเทพ และที่เก็บรวบรวมได้จากรถยนต์กระบะ 2 คัน ที่คนร้ายบุกปล้นจากชาวบ้าน 2 ราย ในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี เพื่อใช้เป็นยานพาหนะในการบุกปล้นและหลบหนีนั้น ผลการตรวจเริ่มทยอยออกแล้ว โดยทราบแล้วจำนวน 3 ใน 10 คน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม
นอกจากนี้ในส่วนของยานพาหนะที่กลุ่มคนร้ายใช้ก่อเหตุมีจำนวน 4 คัน โดยแยกเป็นรถยนต์กระบะที่ถูกปล้น 2 คัน และรถ จยย. 2 คัน ที่กลุ่มคนร้ายใช้ในการวางระเบิดสกัดกั้นการติดตามของเจ้าหน้าที่ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก พบว่ารถ จยย.ทั้ง 2 คัน คนร้ายเคยใช้ก่อเหตุในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก หลายครั้ง แต่ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้
ส่วนกรณีทองรูปพรรณที่กลุ่มคนร้ายบุกปล้นในตู้โชว์ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ในเบื้องต้นที่เจ้าหน้าที่ได้รับทำการประเมินจากจำนวนทองคำรูปพรรณทั้งหมด 800 บาท หรือ 12 กก. ที่วางจำหน่ายอยู่ในตู้โชว์นั้น ได้สูญหายไป 600 บาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบบัญชีให้แน่ชัดว่าคนร้ายได้ทองคำรูปพรรณไปจำนวนเท่าใด ซึ่งต้องรอเจ้าของผู้ประกอบการธุรกิจที่อาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ มาทำการยืนยันอีกครั้ง แต่ทางร้านได้ติดประกาศไว้จะสามารถเปิดให้บริการลูกค้าได้ในวันที่ 9 ต.ค.68 นี้