ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ตำรวจและฝ่ายปกครองยกระดับป้องกันความปลอดภัยร้านทองในพื้นที่ชายแดนสงขลาสูงสุด หลังเกิดเหตุบุกปล้นร้านทองในห้างบิ๊กซีสุไหงโก-ลก พบทุกแห่งเตรียมพร้อมสูงสุด บางร้านเตรียมปืนไว้ป้องกันตัวเองด้วย
วันนี้ (8 ต.ค.) หลังจากเกิดเหตุคนร้ายบุกปล้นร้านทองภายในห้างบิ๊กซี ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ได้ทองไปกว่า 600 บาท ในส่วนของพื้นที่ จ.สงขลา ขณะนี้ได้มีการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยร้านทองสูงสุด โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอชายแดนของ จ.สงขลา เช่นที่ อ.สะเดา ซึ่งอยู่ติดชายแดนไทยมาเลเซีย ทางตำรวจ สภ.สะเดา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.สะเดา ได้ลงพื้นที่ตรวจร้านทอง ทั้งที่อยู่ในพื้นที่บ้านด่านนอก เขตเทศบาลตำบลสำนักขาม ติดแนวพรมแดนไทยมาเลเซีย และร้านทองที่่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ อ.สะเดา เพื่อดูความพร้อมด้านความปลอดภัยของร้านทอง เช่น กล้องวงจรปิด และความพร้อมของตำรวจจะมาตรวจร้านทองทุก 2 ชั่วโมง และรับฟังข้อเสนอของร้านทองในการป้องกันเหตุ
จากการตรวจร้านทองใน อ.สะเดา พบว่าเป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัยร้านทอง ของกองบังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา ในส่วนของเจ้าของร้านทองเองก็ไม่ประมาท บางร้านมีปืนเก็บไว้ในร้านเพื่อป้องกันตัวเอง และจะเฝ้าสังเกตบุคคลต้องสงสัยหรือรถต้องสงสัยที่มีพิรุธตลอด และบางร้านขอให้ตำรวจเน้นมาตรวจช่วงเย็นถึงช่วงค่ำในช่วงร้านทองใกล้ปิด
ด้าน พ.ต.ท. จำลอง เขียวแก้ว สวป.สภ.สะเดา เปิดเผยว่า ภาพรวมร้านทองในพื้นที่ อ.สะเดา พบว่าทุกแห่งมีระบบป้องกันดีอยู่แล้ว แต่ทางตำรวจและฝ่ายปกครองจะเพิ่มความเข้มในการออกตรวจร้านทอง และออกตรวจพื้นที่เพิ่มขึ้น เพื่อป้องกันเหตุโจรกรรมร้านทอง