xs
xsm
sm
md
lg

เด็กและเยาวชนตรังร่วมประกวดรำมโนราห์สืบสานศิลปะการแสดงใต้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตรัง - เด็กและเยาวชนใน จ.ตรัง หลายหลายรุ่น ร่วมกันวาดลวดลายอย่างเต็มที่ ในการประกวดรำมโนราห์ ประจำปี 2568 หวังสืบสานศิลปะการแสดงภาคใต้ ที่ล่าสุดโด่งดังไปไกลถึงเมืองนอกแล้ว

วันนี้ (7 ต.ค.) สภาเด็กและเยาวชนจังหวัดตรัง ร่วมกับบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรัง จัดโครงการประกวดศิลปะวัฒนธรรมท้องถิ่น (การรำมโนราห์) ประจำปี 2568 เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กและเยาวชน ได้ร่วมกันอนุรักษ์ สืบทอด เห็นคุณค่าศิลปะวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาคภูมิใจในความเป็นไทย และได้นำความรู้ความสามารถด้านการรำมโนราห์มาประกวดบนพื้นที่ที่สร้างสรรค์ พร้อมเปิดเวทีให้เด็กและเยาวชนได้ทำกิจกรรมแสดงออกอย่างสร้างสรรค์

โดยมโนราห์เด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมประกวด กำหนดอายุตั้งแต่ 13 -20 ปี คณะละไม่เกิน 6-8 คน และลูกคู่คณะละไม่เกิน 5 คน ซึ่งมีคณะเข้าร่วมการประกวดทั้งหมด 3 ทีม ประกอบด้วย 1.ทีมศรีสวัสดิ์รัตนา จากโรงเรียนสวัสดิ์รัตนาภิมุข อำเภอนาโยง 2.ทีมลายศิลป์โนราห์เติม เป็นลูกหลานคณะมโนราห์เติม จากอำเภอวังวิเศษ และ 3.ทีมคณะมโนราห์ปู่แดงโบราณ จากศูนย์เรียนรู้วัฒนธรรมมโนราห์ อำเภอรัษฎา


สำหรับหลักเกณฑ์การให้คะแนนแบ่งออกเป็น 4 หัวข้อ ประกอบด้วย 1.การรำอวดฝีมือประกอบดนตรี ทั้งลีลาท่ารำ ความยากและหลากหลายของท่ารำ ความสัมพันธ์สอดคล้องกลมกลืนกับดนตรีของลูกคู่ การถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึก 2.การประกอบการร้อง ทั้งน้ำเสียง จังหวะท่วงทำนอง อักขระ ท่ารำที่แตกหลากหลายและถูกต้องตามบทร้อง การสอดแทรกสาระและบทบาทของการเป็นเยาวชนที่ดีของสังคม 3.บทกลอน ประกอบด้วย เนื้อหาการโต้ตอบกลอน ปฏิภาณ ไหวพริบ และ 4.ดนตรี เช่น ความไพเราะสอดคล้อง กลมกลืน ถูกต้องตามรูปแบบการแสดง ความหลากหลาย และการอนุรักษ์หน้าทับ จังหวะโบราณ

ทั้งนี้ พบว่า ทั้ง 3 ทีม ต่างพกพาความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม ต่างโชว์การขับร้อง ขับกลอน ท่วงท่าการร่ายรำ ขณะที่ลูกคู่ก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ทั้ง 3 ทีม ประกอบด้วย มือกลอง มือทับ (โทน) มือโหม่ง มือฉิ่ง มือปี่ และมือแตระ (กรับ) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชนชาย แต่ก็มีบางคณะที่มือทับเยาวชนหญิงมีฝีมือไม่แพ้ผู้ชาย และลูกคู่ก็ไม่ใช่มีแต่เยาวชนเท่านั้น บางคณะมีผู้เฒ่า ผู้แก่ มาช่วยเด็กๆ ด้วย ถือเป็นการผสมผสานและถ่ายทอดประสบการณ์การละเล่นเครื่องดนตรีมโนราห์ รวมทั้งการรับกลอนสด จากรุ่นสู่รุ่น

โดยเฉพาะคณะมโนราห์ปู่แดงโบราณ ถือว่าเป็นทีมน้องเล็กสุด เพราะน้องๆอายุตั้งแต่ 7-13 ปี และมือทับก็ยังเป็นเด็กหญิงด้วย แต่ได้งัดไม้เด็ดคือ การรำมโนราห์ตัวอ่อนเข้าประชัน จนเรียกความประทับใจทั้งจากคณะกรรมการ และผู้ชมอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ผลการประกวด ปรากฏว่า ทีมศรีสวัสดิ์รัตนา ได้รับรางวัลชนะเลิศ ส่วนรองชนะเลิศ อันดับ 1 คือ ทีมลายศิลป์โนราห์เติม และรองชนะเลิศ อันดับ 2 คือ ทีมคณะมโนราห์ปู่แดงโบราณ


นางสาวจิระธิดา หวังสง่า นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนสวัสดิ์รัตนาภิมุข บอกว่า ในคณะของตนประกอบไปด้วยรุ่นน้องชั้น ม.3 จำนวน 2 คน และรุ่นพี่ชั้น ม.5 อีกจำนวน 3 คน ซึ่งต่างเป็นลูกหลานของคณะมโนราห์ต่างๆ ในอำเภอนาโยง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีคณะมโนราห์มากที่สุดของจังหวัดตรัง ได้มารวมทีมกันที่โรงเรียน ส่วนตัวได้รำมโนราห์มา 3 ปีแล้ว ในนามชมรมนาฎศิลป์ของโรงเรียน แต่การรำมโนราห์ของโรงเรียนนั้น ได้สืบสานกันมาจากรุ่นสู่รุ่น แล้วนำมาฝึกประสบการณ์ส่งต่อให้กับน้องๆ ซึ่งหลังจากมโนราห์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกที่จับต้องไม่ได้ ทำให้ปัจจุบันมีการว่าจ้างมโนราห์ไปแสดงเยอะ มีรายได้งานละ 500 บาท/วัน เพื่อนำไปซื้อของที่จำเป็น ซื้อชุดนักเรียน และเก็บออมไว้

ด้าน เด็กหญิงปาณิสรา คงพิทักษ์ อายุ 7 ปี นักเรียนชั้น ป.2 หนึ่งในผู้เข้าประกวดจากทีมคณะปู่แดงมโนราห์โบราณ บอกว่า ตนเองฝึกซ้อมมาแค่ 1 เดือน ก็ได้มาออกงานแล้ว สาเหตุที่ได้มารำมโนราห์ เพราะเชื่อว่าสืบสายเลือด เพราะเมื่อตนเองไปชมการแสดงมโนราห์ และกลับมาบ้าน ก็ร่ายรำให้คุณย่าดู จากนั้นก็เริ่มเรียนจริงๆ จังๆ จนได้มารำออกงาน และได้รางวัลด้วย รู้สึกดีใจมาก ตั้งใจจะเอาเงินรางวัลกินเลี้ยงกับเพื่อนๆ


ส่วน นางสาวชัญญมณฑน์ พิรัลดาวรัตน์ หัวหน้าคณะมโนราห์กลอยใจ หทัยศิลป์ จังหวัดพัทลุง หนึ่งในคณะกรรมการผู้ตัดสิน บอกว่า รู้สึกดีใจที่เด็กๆ รุ่นหลัง ให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมพื้นบ้านของตนเองมากขึ้น รวมทั้งยังกล้าแสดงออก ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และพัฒนาเป็นอาชีพเลี้ยงตัวเองได้ในอนาคตด้วย เพราะตอนนี้มโนราห์ของภาคใต้โด่งดังไปไกลถึงต่างประเทศแล้ว รวมทั้งยังเปิดกว้างให้ตนเอง ซึ่งเป็นผู้หญิง สามารถก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าคณะมโนราห์ได้แล้ว ทำให้ตนเองรู้สึกภูมิใจมาก ส่วนเด็กๆ และเยาวชนที่มาเรียนรู้เรื่องมโนราห์เหล่านี้ บางคนมาเพราะสายเลือดมโนราห์ บางคนมาด้วยชอบ บางคนมาด้วยความรัก หรือต้องการมาเพื่อสร้างเอกลักษณ์โดดเด่นให้กับตนเอง

ขณะที่ นายศุภกิจ สินชัย ประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดตรัง ประธานสภาเด็กและเยาวชนภาคใต้ และรองประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย ก็บอกว่า การจัดการประกวดมโนราห์ในครั้งนี้ ถือเป็นปีที่ 4 แล้ว และตั้งใจว่าจะต่อยอดจัดต่อไป และอยากจะจัดให้ยิ่งใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้มีพื้นที่การแสดง รวมทั้งร่วมกันสืบสานและรักษาวัฒนธรรมเอาไว้ แต่เสียดายว่าปีนี้มีทีมเข้าประกวดแค่ 3 ทีม ความจริงจะมีมากกว่านี้ แต่เป็นเพราะว่าน้องๆ อีกหลายทีมติดสอบกลางภาค และบางส่วนติดสอบเข้ามหาวิทยาลัย จึงมีทีมสมัครน้อย


กำลังโหลดความคิดเห็น