ศูนย์ข่าวภูเก็ต - หลานชายนักการเมืองดังพัทลุง ควงทนายความเข้ามอบตัวกับ พนักงานสอบสวนเมืองภูเก็ต ปฏิเสธข้อหาพยายามฆ่า รับว่าแทง เพราะบันดาโทสะ แต่ไม่ได้ประสงค์ต่อชีวิต เพราะเป็นเรื่องขัดแย้งส่วนตัว ขณะ ตร.คัดค้านการประกันตัว
จากกรณี เกิดเหตุคนร้ายใช้มีดแทง นายกรรณตวีย์ อายุ 25 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช ภายในร้านเหล้ากลางเมืองภูเก็ต จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนผู้ก่อเหตุได้ขับรถหรูสปอร์ต สีขาวออกจากที่เกิดเหตุ และนำรถไปจอดทิ้งที่บริเวณพูนผลไนท์พลาซ่า ถ.พูนผล ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดรถคันและติดตามคนขับรถมาสอบสวนข้อเท็จจริง ทราบชื่อในเวลาต่อมา คือ นายธีรยุทธ อายุ 43 ปี หลานชายนักเมืองดัง จ.พัทลุง หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป ก่อนที่ติดต่อ ขอเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ในวันนี้ ( 3 ต.ค.68 ) ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดเกิดจากการหึงหวงอดีตแฟนเก่า ที่มาคบหากับ นายกรรณตวีย์ ผู้บาดเจ็บ ที่พามาเที่ยวกันที่ร้านเกิดเหตุ
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 11.55 น.วันนี้ ( 3 ต.ค.68) ที่ สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.อ.ชาตรี ชูแก้ว ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.ท.อรรถวัฒน์ สุวรรณรัตน์ รอง ผกก.สส.และ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ได้มอบตัวนายธีรยุทธ อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาในคดีพยายามฆ่าผู้อื่นและพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร หลังก่อเหตุแทงนายกรรณตวีย์ได้รับบาดเจ็บสาหัสภายในร้านเหล้ากลางเมืองภูเก็ต เมื่อกลางดึกวันที่ 1 ต.ค.68 ที่ผ่านมา โดยมีทนายความส่วนตัวเข้าร่วมรับฟังข้อกล่าวหา ซึ่งพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน จากนั้นได้นำตัวนายธีรยุทธส่งฟ้องศาลในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตามขณะเข้าพบกับพนักงานสอบสวน นายธีรยุทธ อยู่ในอาการนิ่งสงบ โดยในชั้นพนักงานสอบสวน นายธีรยุทธ ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือแทงผู้บาดเจ็บจริง แต่ไม่ได้ประสงค์ต่อชีวิตของผู้บาดเจ็บแต่อย่างใด เนื่องจากเกิดบันดาโทสะ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างตนเองกับคนเจ็บ โดยขอปฎิเสธข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น
ด้าน พ.ต.อ.ชาตรี ชูแก้ว ผกก.สภ.เมืองเก็ต กล่าวภายหลัง นายธีรยุทธ พร้อมทนายความเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางพนักงานสอบสวนได้ยื่นขอศาลจังหวัดภูเก็ตเพื่ออนุมัติหมายจับเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 2 ต.ค.68 จนกระทั่งในวันนี้(3 ต.ค.68) ผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต โดยพนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหาในเบื้องต้นพยายามฆ่าผู้อื่นและพกพาอาวุธมีดไปในเมือง โดยผู้ต้องหาให้การปฎิเสธในข้อหาพยายามฆ่า ซึ่งเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา โดยพนักงานาสอบสวนจะได้นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดภูเก็ต ส่วนสาเหตุผู้ต้องหาให้การเพียงว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่อย่างใดและไม่มีผู้ใดร่วมกระทำความผิด