xs
xsm
sm
md
lg

รวบแล้ว 1 ใน 2 คนร้ายย่องยกเซฟบ้านประธานสภาอุตฯใต้ เจ้าทรัพย์ตั้งรางวัลนำจับ 1 แสนล่าอีกราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตรัง - รวบแล้ว 1 ในคนร้ายที่ย่องยกเซฟบ้านประธานสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ ยึดเงินสดคืนได้ 7.5 แสนบาท ตำรวจเผยคนร้ายก่อเหตุมาแล้วหลายคดี ด้านเจ้าของทรัพย์ตั้งรางวัลนำจับ 1 แสนบาท ล่าคนร้ายที่ยังหลบหนีอีก 1 คน

วันนี้ (2 ก.ย.) จากกรณีที่ 2 คนร้ายเป็นชาย ย่องเข้าลักทรัพย์ภายในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 4 ต.นาเมืองเพชร อ.สิเกา จ.ตรัง ริมถนนตรัง-สิเกา ซึ่งเจ้าของคือ นายอดิศร ตันเฮงชวน ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้เห็นรูปพรรณได้อย่างชัดเจน ซึ่งขณะเกิดเหตุ นายอดิศร ไม่อยู่บ้าน ติดภารกิจอยู่ที่ กทม. จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า คนร้ายได้ยกตู้เซฟซึ่งเก็บของมีค่าจำนวนมาก เช่น เงินสด 2.8 ล้านบาท พระหลวงปู่ทวด รุ่น 2497 มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท พระอื่นๆ สร้อยทอง แหวนพลอยล้อมเพชร นาฬิกาโรเล็กซ์ และนาฬิกาข้อมืออื่นๆ รวมทั้งหมดกว่า 10 รายการ มูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ก.ย.68 ที่ผ่านมา

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.สิเกา ได้เร่งสืบสวนคลี่คลายคดี โดยได้ประโยชน์จากภาพกล้องวงจรปิด ทั้งภายในบ้านที่เกิดเหตุ รวมถึงตามเส้นทางหลบหนี จนสามารถขอศาลอนุมัติหมายจับคนร้ายทั้ง 2 รายได้ คือ นายศราวุธ (สงวนนามสกุล) หรือ เอ อายุ 41 ปี และ นายนุชพงศ์ (สงวนนามสกุล) หรือ อ้น อายุ 31 ปี โดยทั้งคู่เป็นชาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตามเส้นทางการหลบหนี พร้อมประสานตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัว นายอ้น ได้ที่บ้านเช่าหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ พร้อมยึดทรัพย์สินที่ถูกขโมยได้บางส่วน รวมทั้งซากตู้เซฟที่นำไปทิ้งในสวนหลังบ้าน ก่อนนำตัวมาสอบสวนยังกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดตรัง

เบื้องต้น นายอ้น ยอมรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับ นายเอ ก่อเหตุจริง โดยระบุว่า ตนได้รับส่วนแบ่งเป็นเงินสดมาราว 1 ล้านบาท ก่อนจะนำเงินไปซื้อมอเตอร์ไซค์ ในราคา 55,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ ในราคา 4,000 บาท อย่างไรก็ตาม ตนไม่รู้ว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านใคร และเคยก่อเหตุลักทรัพย์ในลักษณะนี้มาแล้ว 1-2 ครั้ง และยอมรับว่าเสพยาเสพติด ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ที่เหลืออยู่กับ นายเอ ซึ่งไม่ทราบว่าหลบหนีไปที่ใด เพราะหลังจากแบ่งเงินกันแล้วก็แยกย้าย ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย โดยตนกับ นายเอ เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ตนอยากขอโทษเจ้าทรัพย์เพราะผิดพลาดไปแล้ว ไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้แล้ว

ต่อมา ที่ สภ.เมืองตรัง พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมด้วย พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดตรัง และ พ.ต.อ.ธีรภัทร ปิยะถาวร ผกก.สภ.สิเกา ร่วมแถลงความคืบหน้าคดี โดยมี นายอดิศร ตันเฮงชวน ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ ผู้เสียหายที่มาพร้อมบุตรสาว และนายสมปอง พ่วงพูน กำนันตำบลนาเมืองเพชร ร่วมรับฟังด้วย

โดย พ.ต.อ.อภิชัย เปิดเผยว่า จากการสืบสวนพบว่าเป็นกลุ่มคนร้ายที่เคยก่อเหตุลักทรัพย์ลักษณะนี้มาแล้วหลายคดีในพื้นที่ สภ.เมืองตรัง และเคยมีหมายจับมาแล้วเมื่อช่วงเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา และอาจมีในพื้นที่อื่นอีก ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยในคืนเกิดเหตุของบ้าน นายอดิศร คนร้ายยังเข้าลักทรัพย์ในพื้นที่ ต.นาตาล่วง พื้นที่ สภ.เมืองตรัง อีกด้วยแต่ไม่ได้ทรัพย์ไป ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้ 1 รายในพื้นที่ จ.กระบี่ ส่วนอีกรายยังคงหลบหนี แต่จากพยานหลักฐานคาดว่าน่าจะจับกุมตัวได้เร็ว ๆ นี้

ด้าน นายอดิศร ตันเฮงชวน ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเดินทางไปทำธุระที่ กทม. ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา เพิ่งกลับมาในวันนี้ และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้นำท้องที่ ฝ่ายปกครอง ที่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ตนสบายใจและมีความมั่นใจในการทำงานของตำรวจ ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นให้กับจังหวัดตรังในเรื่องการปกป้องทรัพย์สินของประชาชน หลังจากนี้ตนคงต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นกว่าเดิม เพราะบ้านของตนเป็นบ้านเปิด ที่ปกติแล้วมีคนเข้าออกอยู่ตลอด

สำหรับทรัพย์สินในตู้เซฟที่ถูกขโมยไปนั้น ในส่วนของเงินสด มีทั้งเงินของมารดาที่ฝากไว้กับตน และเงินที่ตนถอนมาเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพื่อเตรียมใช้ในกิจการของบริษัท รวมทั้งทรัพย์สินอื่นๆ เช่น พระเครื่อง นาฬิกา แหวนพลอยล้อมเพชร ตนก็อยากได้คืนทั้งหมด แต่ถ้าไม่ได้ตนก็ต้องทำใจว่าอาจต้องเสียไปบ้าง เพราะชีวิตคนสำคัญกว่า ซึ่งโชคดีที่คนร้ายไม่ได้ทำร้ายคนในบ้าน เพราะในคืนเกิดเหตุมีมารดาของตนอายุ 89 ปี และแม่บ้านนอนหลับอยู่ชั้นบนของบ้าน โชคดีที่คนร้ายไม่ได้เข้าไปในห้องนอน และไม่มีใครตื่นมาพบกับเหตุการณ์

ทั้งนี้ ตนขอตั้งรางวัล 1 แสนบาท ให้กับผู้ที่แจ้งเบาะแสในการติดตามจับกับคนร้ายที่เหลือ และได้รับทรัพย์สินกลับคืนมา


กำลังโหลดความคิดเห็น