xs
xsm
sm
md
lg

“กุยช่ายทุ่งยาว” ขนมมงคลเมืองตรัง สืบทอดวัฒนธรรมชาวจีนหลายร้อยปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตรัง - “ขนมกุยช่ายทุ่งยาว” ขนมมงคลเมืองตรัง ที่สืบทอดวัฒนธรรมชาวจีนมาหลายร้อยปี ทั้งใช้ในเทศกาลสำคัญ อย่างวันไหว้พระจันทร์ที่กำลังมาถึง และผลิตขายสร้างรายได้เสริมให้กับหลายครอบครัว

วันนี้ (2 ต.ค.) ขนมกุยช่าย ซึ่งเป็นขนมที่ชาวบ้านใน ต.ทุ่งยาว อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนไทยเชื้อสายจีนแต้จิ๋ว ที่บรรพบุรุษอพยพจากจีนแผ่นดินใหญ่มาหลายร้อยปีแล้ว ทำให้มีวัฒนธรรมอาหารการกิน และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น รวมทั้งครอบครัวของ นายธิติศักดิ์ ก้าวสัมพันธ์ อายุ 73 ปี และ นางจินตนา ก้าวสัมพันธ์ อายุ 65 ปี ที่ยังคงทำขนมกุยช่ายมาอย่างยาวนาน โดยนอกจากจะมีไส้กุยช่ายแล้ว ยังมีไส้มะละกอเพิ่มขึ้นมาด้วย ซึ่งต่างเป็นวัตถุดิบที่ปลูกเองในพื้นที่ว่างข้างบ้าน ร่วมกับพืชผักสวนครัวหลายชนิด


สำหรับวิธีการทำขนมกุยช่ายทุ่งยาว เริ่มจากการนำแป้งข้าวเจ้า และแป้งมันผสมกัน ใส่น้ำร้อนนวดแป้งให้เข้ากันดี รวมทั้งหยดสีผสมอาหารสีชมพูลงไปเล็กน้อย เพื่อให้แป้งแลดูสวย แล้วพักเอาไว้ จากนั้นก็ไปเตรียมไส้ เริ่มจากไส้กุยช่าย ด้วยการนำใบกุยช่ายไปล้างทำความสะอาด แล้วตากแดดจนแห้ง ก่อนนำไปหั่นคลุกเคล้ากับน้ำมันพืช หรือน้ำมันหมู ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว เกลือ น้ำตาล น้ำด่าง และพริกไทยตรังพันธุ์ปะเหลียน ให้หอมกลมกล่อม ส่วนไส้มะละกอ จะใช้ลูกมะละกอที่มีลักษณะห่าม นำมาสับแล้วต้มกับน้ำให้เส้นมะละกออ่อนนุ่ม จากนั้นนำมาผัดกับน้ำมันพืช หรือน้ำมันหมู ใส่เนื้อหมูต้มหั่นชิ้นเล็ก กุ้งแห้ง และเห็ดหอมหั่นชิ้น ก่อนปรุงรสแบบเดียวกับไส้กุยช่าย

ขณะที่ขั้นตอนการปั้นแป้ง เริ่มจากกลึงแป้ง และทำแป้งให้เป็นวงลักษณะถ้วย ก่อนตักไส้กุยช่าย และไส้มะละกอที่เตรียมไว้ ใส่ลงไปในถ้วยแป้งนั้น แล้วปิดปาก และแต่งขนมให้เป็นลูกกลม จากนั้นนำไปนึ่งด้วยเตาฟืนที่มีน้ำเดือดคลั่กจนสุก ซึ่งใช้เวลา 15 นาที ก็จะได้ขนมกุยช่ายทุ่งยาวที่แสนอร่อย แป้งบาง อัดแน่นด้วยไส้ ที่ชาวตำบลทุ่งยาวนิยมทานคู่กับน้ำจิ้มซีอิ๊วดำสูตรดั้งเดิม ที่ผสมพริกขี้หนูสดและกระเทียมสับ หรือทานคู่กับน้ำจิ้มกำเจืองสูตรชาวตรัง หรือ จิ๊กโฉ่ว


นายธิติศักดิ์ ก้าวสัมพันธ์ เล่าว่า แม่ของตนเป็นชาวจีน อพยพจากเมืองซัวเถา มาอยู่ที่ตำบลทุ่งยาว อ.ปะเหลียน จึงได้ถ่ายทอดสูตรขนมกุยช่าย ซึ่งนิยมทำกันในช่วงเทศกาลสำคัญของจีน เช่น วันไหว้พระจันทร์ วันสารทจีน วันตรุษจีน วันเช็งเม้ง เพื่อใช้ไหว้เทพเจ้าและบรรพบุรุษตามความเชื่อของชาวไทยเชื้อสายจีน โดยในตำบลทุ่งยาว เกือบทุกครัวเรือนยังคงทำขนมกุยช่ายกัน และหลายรายทำขายเป็นอาชีพ จนเป็นแหล่งใหญ่ที่สุดในจังหวัดตรัง ซึ่งมีเอกลักษณ์แตกต่างจากที่อื่น คือ ใช้กุยช่ายพันธุ์ดั้งเดิมที่เก็บหัวไว้ขยายพันธุ์เอง โดยมีลักษณะใบเล็กเรียว และมีกลิ่นหอมกว่ากุยช่ายพันธุ์ทั่วไป พร้อมทั้งยังใช้พริกไทยตรังพันธุ์ปะเหลียน เป็นส่วนผสมสำคัญด้วย

นอกจากนี้ ขนมกุยช่ายทุ่งยาวหลายเจ้า ได้พัฒนาให้มีไส้ที่หลากหลายมากขึ้น และเน้นวัตถุดิบที่หาได้ง่ายมาทำ เช่น ไส้มะละกอ ไส้หน่อไม้ ไส้มันแกว ไส้เผือก เป็นต้นเพื่อใช้ในโอกาสสำคัญ โดยเฉพาะวันไหว้พระจันทร์ ซึ่งในปี 2568 จะตรงกับวันที่ 6 ตุลาคม โดยขนมชนิดนี้นอกจากจะมีความหมายเชิงมงคลแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์ของความกตัญญู และความผูกพันด้วย เพราะเมื่อไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เสร็จแล้ว ก็จะแบ่งกันทานในครอบครัว ขณะเดียวกันขนมกุยช่ายยุคใหม่ ยังกลายเป็นอาหารว่างพื้นบ้าน ที่ได้รับความนิยมในงานบุญ หรืองานประเพณีของชุมชน จนกลายเป็นสินค้าที่สร้างรายได้เสริมให้กับอีกหลายครอบครัวอีกด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น