พัทลุง – ตามไปดู “ลุงเฉลิม” ช่างตีเหล็กเมืองพัทลุง จากภูมิปัญญาบรรพบุรุษที่โรงงานปรีชาเหล็กกล้า ต.ชัยบุรี อ.เมือง จ.พัทลุง โดยนำเศษเหล็กแหนบรถยนต์ไร้ค่ามาแปรรูปตีเป็นของมีคม มีดพร้า จอม เสียม เพิ่มมูลค่าสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว
วันนี้ (2 ต.ค.) นายเฉลิม รุ่งเรือง อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 ม.10 ต.ชัยบุรี อ.เมือง จ.พัทลุง ผู้ประกอบอาชีพ “ฅนตีเหล็ก” ที่ทำมานานกว่า 45 ปี ถือเป็นอาชีพที่ต่อยอดมาจากอาชีพภูมิปัญญาชาวบ้านจากรุ่นสู่รุ่น โดยโรงงานปรีชาเหล็กกล้า จะนำเศษเหล็กแหนบ อะไหล่รถยนต์ ในสภาพที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้แล้ว มาแปรรูปเป็นของใช้ในครัวเรือน เช่น มีดพร้าและของมีคมที่มีคุณภาพ สร้างรายได้สร้างอาชีพให้กับครอบครัว
สิ่งที่ทำให้โรงงานปรีชาเหล็กกล้า เป็นที่ยอมรับ คือ เหล็กที่นำมาแปรรูปเป็นของมีคม จะต้องทำมาจากเหล็กแหนบอะไหล่รถยนต์ เท่านั้น เพราะจะมีคุณภาพคงทน ทำมาจากเหล็กกล้า ใช้งานได้นานหลายปี คมไม่เสีย และยังสามารถลับคมใช้ได้นานหลาย 10 ปี จนเป็นที่ต้องการของตลาด
นายเฉลิม เปิดเผยว่า สำหรับอาชีพคนตีเหล็ก เป็นอาชีพที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษจากรุ่นสู่รุ่น ยาวนานกว่า 40 ปี ตนสืบทอดมาจากพ่อที่เป็นผู้ริเริ่ม รับซื้อเศษเหล็กแหนบอะไหล่รถยนต์ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ในราคาเศษเหล็กประมาณ กิโลกรัมละ 15 – 20 บาท นำมาแปรรูปเป็นของมีคมต่าง ๆ
โดยที่มาของการใช้เหล็กแหนบ เพราะมีการทดลองใช้งานจริงแล้ว จะเป็นมีดพร้าหรือจอบเสียมก็มีคุณภาพเรื่องความคม เพราะมาจากเหล็กแหนบรถยนต์ที่ผ่านการชุบหลอมเป็นเหล็กกล้าจากโรงงาน หลังการแปรรูปออกมาเป็นของมีคมจะคงทนใช้งานได้นานหลายปี จึงเป็นจุดเด่นของมีดพร้าของมีคมจากโรงงานตีเหล็ก ปรีชาเหล็กกล้า เป็นที่ยอมรับของตลาดทั่วประเทศ
นายเฉลิม ยังกล่าวอีกว่า การตีเหล็ก แม้ปัจจุบันจะใช้เครื่องทุ่นแรงในการตีมีดพร้า เนื่องจากตนมีอายุเยอะแล้ว แต่ยังต้องใช้ความชำนาญจากคนในการควบคุม รวมถึงการลับคมจะต้องใช้แรงงานคน ไม่สามารถทำแบบพิมพ์สำเร็จรูปได้ ถือเป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ความชำนาญ ความอดทน จากเศษเหล็กกลายเป็นสินค้าในครัวเรือน ใช้ในการเกษตร ในราคาหลัก 100 – 1,000 บาท แล้วแต่รูปแบบ มีพ่อค้าแม่ค้าสั่งซื้อไปใช้หรือไปขายทั่วประเทศ
ปัจจุบันมีการยกระดับเพิ่มมูลค่า มีดพร้า แปรรูปออกมาเน้นความสวยงามตามออเดอร์ สายลุยป่า สายแอดเวนเจอร์ รวมถึงนำไปโชว์เพื่อความสวยงาม มีราคาสูงเล่มละ 1,000 – 2,000 บาท ถือเป็นการยกระดับเพิ่มมูลค่าสินค้าให้ราคาสูงขึ้น
นายเฉลิมยังกล่าวเสริมอีกว่า การตีเหล็กเป็นการสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวที่ดีตลอดมา แต่น่าเสียดายในปัจจุบัน การตีเหล็กนั้นเป็นอาชีพที่เด็กรุ่นใหม่ไม่นิยมเรียนหรือฝึกอาชีพด้านนี้ ทำให้การสืบทอดภูมิปัญญาทางด้านช่างตีเหล็กเริ่มลดน้อยลง แต่ความต้องการใช้ประโยชน์ยังสูง