xs
xsm
sm
md
lg

ทนไม่ไหว! “บังดุล” พร้อมสู้วิ่งจากปัตตานีไปภูมะเขือส่งแรงใจทหารไทยขับไล่เขมร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปัตตานี - “บังดุล” นักวิ่งจิตอาสาชาวปัตตานีทนไม่ไหว ออกวิ่งจากปัตตานีไปภูมะเขือระยะทางกว่า 1,700 กม. เพื่อส่งแรงใจให้ทหารไทยขับไล่เขมร และเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงการยืนหยัดปกป้องอธิปไตยของชาติไทย

วันนี้ (30 ก.ย.) นายอับดุล สารีเต๊ะ อายุ 52 ปี หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า “บังดุล” นักวิ่งจิตอาสาชาวอำเภอมายอ จ.ปัตตานี ได้ออกมาวิ่งอีกครั้งหลังจากห่างหายไปพักใหญ่ โดยในครั้งนี้เหตุผลที่บังดุลตัดสินใจออกวิ่งอีกครั้ง มาจากความรู้สึกไม่พอใจต่อสถานการณ์ที่ชาวเขมรกลับมารุกรานพื้นที่ชายแดนไทยอย่างรุนแรง จึงได้ตั้งปณิธานแน่วแน่ว่าจะวิ่งจากจังหวัดปัตตานีไปยังภูมะเขือ รวมระยะทางประมาณ 1,753 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้เวลามากกว่า 1 เดือน เพื่อเป็นการส่งกำลังใจให้แก่ทหารที่ปักหลักปกป้องแผ่นดิน และยังแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงการยืนหยัดปกป้องอธิปไตยของชาติไทย

ตลอดเส้นทางการวิ่ง ชาวบ้านในแต่ละอำเภอที่บังดุลผ่าน ต่างออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้ม โบกมือทักทาย พร้อมร่วมถ่ายภาพเก็บไว้เป็นความทรงจำ หลายคนตะโกนส่งเสียงเชียร์ สู้ ๆ เพื่อเติมกำลังใจให้บังดุลเดินหน้าภารกิจครั้งนี้อย่างมั่นคง บางคนถึงกับฝากข้อความผ่านบังดุลไปยังชาวเขมรว่า ที่นี่คือแผ่นดินไทย ไม่มีใครสามารถรุกรานได้


ทั้งนี้ “บังดุล” นักวิ่งจิตอาสา ถือเป็นบุคคลที่ชาวบ้านยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์แห่งความเสียสละ เขามักออกมาวิ่งเพื่อระดมทุนหรือส่งกำลังใจในหลายสถานการณ์สำคัญของประเทศ สร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นว่า แม้เพียงคนธรรมดาก็สามารถทำสิ่งยิ่งใหญ่เพื่อบ้านเมืองได้

นายอับดุล สารีเต๊ะ เปิดเผยว่า ต้องการให้หน่วยงานของไทยดำเนินมาตรการชัดเจนในการป้องกันชายแดน โดยเสนอให้สร้างกำแพงอย่างเร่งด่วน เพื่อยืนยันว่านั่นคือพื้นที่ของประเทศไทย เปรียบเทียบกับแนวชายแดนฝั่งใต้ที่ติดกับประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีการก่อสร้างสิ่งกีดขวางไว้แล้ว เมื่อตนวิ่งไปถึงภูมะเขือ ตนพร้อมจะเผชิญหน้าและขับไล่ผู้ที่เข้ามารุกรานให้ออกไปจากประเทศ สำหรับการออกวิ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ก่อนหน้านี้ตนเคยวิ่งไปส่งกำลังใจให้ทหารแล้ว แต่ล่าสุดตนนอนไม่หลับเพราะเกิดความไม่พอใจที่เห็นการรุกล้ำยังไม่ยุติ จึงตัดสินใจออกวิ่งอีกครั้งเพื่อให้กำลังใจทหารและแสดงจุดยืนต่อการบุกรุกและขับไล่เขมรออกไป

“คนเขมรเป็นกลุ่มหัวรุนแรงและไม่สำนึกบุญคุณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ซึ่งเคยให้ที่พักพิงแก่ผู้คนบางกลุ่ม แต่พอคนเขมรมาอยู่แล้วก็อ้างสิทธิเป็นพื้นที่เขา อันนี้ไม่ถูกต้อง ตนรู้สึกเจ็บใจมาก ตนก็ขอให้กำลังทหารไทย ส่วนเขรมเมื่อไปถึงเจอดีกับผมแน่ ผมจะไล่ให้หมด เพราะผมก็ใจร้อนเหมือนกัน ถ้าพวกคุณอยู่ในพื้นที่ผม ผมไม่ปล่อยไว้แน่” นายอับดุล กล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น