สุราษฎร์ธานี – ชาวบ้านสุดทน ต่างชาติ ขุดซากเรือโบราณ ที่จมอยู่ในทะเล ชายหาดบ้านใต้ มากว่าร้อยปี ขึ้นมาวางบนชายหาด ระบุเป็นการย้ำยี่หัวใจของคนในชุมชน เนื่องจากซากเหล็กเป็นเรือกลไฟมัยโบราณ ที่จมอยู่ในทะเล เป็นแลนด์มาร์คสำคัญ
วันนี้ ( 26 กันยายน 2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการณี ที่ซากเหล็กโบราณ ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นซากเหล็กเรือกลไฟโบราณ ที่จมอยู่ และโผล่เหนือพื้นทราย มานานกว่า 100 ปี บนชายหาดสาธารณะ บ้านใต้ หมู่ 5 ตำบลแม่น้ำ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ผ่านมา ชาวบ้านตั้งแต่สมัย รุ่นปู่ย่าตายาย ได้ตั้งข้อสงสัยกันเป็นจำนวนมาก ว่าน่าจะเป็นซากเรือรบเก่าในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือ เป็นเสาเรือ หรือ ปล่องของหม้อต้มไอน้ำเรือ ซึ่งซากเหล็กดังกล่าว มีลักษณะเป็นวงกลมมีปุ่มตรงกลาง เหล็กมีความหนาประมาณ 2 เซนติเมตร วัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้ประมาณ 330 เซนติเมตร ที่ถูกฝังอยู่ในทรายริมชายหาดมาเป็นระยะเวลานานมาก จนเป็นสนิมผุกร่อนไปตามกาลเวลา จากน้ำทะเลกัดเซาะมานาน
โดยซากเหล็กนี้ความยาวขนานไปกับชายหาดที่ถูกฝังอยู่ใต้พื้นทราย ซึ่งมีการขุดมาก่อนหน้านี้ แต่เมื่อขุดไปแล้ว น้ำทะเลที่เข้ามามีลักษณะขุ่นจนไม่เห็นตัวเรือ และเมื่อใช้รถแบ็กโฮดันเรือ ก็ไม่มีการขยับเขยื้อน เพราะมีความแข็งมาก และ เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่มักมาแล้วจะต้องเดินลงไปถ่ายภาพ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ในสื่อออนไลน์ ได้มีการแชร์ภาพนี้ออกไป ว่า มีการขุดแท่งเหล็กซากเรือโบราณขึ้นมาวางไว้บนก้อนหิน บริเวณชายหาดสาธารณะบ้านใต้แล้ว สร้างความไม่สบายใจให้กับผู้นำชุมชนและประชาชน ในชุมชนบ้านใต้ ตำบลแม่น้ำ
โดยนายเมืองมนต์ แช่มชื่น ผู้นำชุมชนบ้านใต้ ตำบลแม่น้ำ นายณะรบ ทวยเจริญ นายศิลป์ชัย วาณิชย์เจริญ สมาชิกสภาเทศบาลนครเกาะสมุย นายพิชัย ผ่องแผ้ว สมาชิกสภาเทศบาลนครเกาะสมุย เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ภาค 4 พร้อมชาวบ้านประมาณ 20 คน ได้เดินทางลงพื้นที่บริเวณชายหาดสาธารณะบ้านใต้ หลังจากทราบข่าวว่า แท่งเหล็กซากเรือโบราณดังกล่าว ถูกเอกชนที่เป็นชาวต่างชาติ ว่าจ้างเครื่องจักรหนัก ทำการขุดซากแท่งเหล็กดังกล่าวขึ้นมาวางไว้บนแนวสันก้อนหิน ที่ชาวต่างชาติ ได้นำมาปรับภูมิทัศน์
ชาวบ้านทุกคน เห็นแล้วไม่สบายใจ เนื่องจาก แท่งซากเหล็กเรือโบราณดังกล่าว เป็นเอกลักษ์ ของชุมชน พร้อมทั้งเร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงตรวจสอบด่วน พร้อมให้ใช้กฎหมายดำเนินคดีกับผู้ที่ขุดซากเรือโบราณดังกล่าวขึ้นมา ถือว่าบุกรุกชายหาด
ด้านนายเมืองมนต์ แช่มชื่น ผู้นำชุมชนบ้านใต้ ชี้ให้ผู้สื่อข่าวดู จุดที่ซากแท่งเหล็กดังกล่าวจมอยู่ใต้พื้นทรายในทะเล พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนเด็กๆ ยายเล่าให้ฟัง ตั้งแต่จำความได้มีอยู่แบบนี้แล้ว และคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นในสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะช่วงนั้นมีระเบิดมาลงแถวเกาะสี่ เกาะห้า บริเวณทะเลเกาะสมุย และ ก่อนหน้านี้ก็เคยเอาแม็คโครมาขุด แต่ก็ไม่ขึ้นเพราะน้ำหนักเยอะมากหลังจากที่เคยนำรถแบ็คโฮมาขุด
ต่อมา คนขับแม็คโฮ ก็เกิดไม่สบาย ชาวบ้านเลยมีความเชื่อว่าน่าจะเกิดจากสาเหตุการขุด จึงไม่มีใครกล้าแตะซากเหล็กดังกล่าว และมาในวันนี้ เอกชน ที่เป็นชาวต่างชาติเข้ามาทำการขุดโดยพละการ และไม่มีการแจ้งให้ชาวบ้านรู้ จะทำอะไรลงไป ต้องมีการปรึกษากับชาวบ้าน ในวันนี้ ตนได้นัดชาวบ้าน พร้อมกับอยู่ระหว่าง ปรึกษากัน เพื่อแจ้งให้ทาง เจ้าท่า ทราบก่อน ว่าจะทำยังไง ส่วนชาวบ้านส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วย ที่นำซากเเทางเหล็กดังกล่าวขึ้นมา เนื่องจากบริเวณนี้ เป็รจุดแลนมาร์ค ของชุมชนไปแล้ว
ในขณะที่ นายณะรบ ทวยเจริญ สมาชิกสภาเทศบาลนครเกาะสมุย ให้สัมภาษณ์ กับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องนี้ ต้องแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงทราบอย่างเร่งด่วน คือทางเจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าเกาะสมุย และหน่วยงานเช่น ธรรมชาติทางทะเล และชายฝั่งเข้ามาดูเป็นเรื่องข้อกฏหมาย เพราะแท่งเหล็กอยู่ในทะเล ซึ่งเป็นของกรมประมงและเจ้าท่าดูแลอยู่ เพราะฉะนั้นต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลไปตามข้อกฏหมาย
สมาชิกสภาเทศบาลนครเกาะสมุย ยังกล่าวอีกว่า ส่วนเทศบาล คงดำเนินการในการแจ้งข้อมูลข่าวสารต่างๆ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะเทศบาลฯ หรืออำเภอมีหน้าที่ในการดูแลพื้นที่สาธารณะ และสาธารณะบางส่วน อยู่ในความดูแลของหน่วยงานตรง เช่น ป่าไม้ ชายหาด ต้องให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ตรงดำเนินการทางข้อกฏหมาย
จากการพูดคุยกับชาวบ้าน 100% ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการเคลื่อนย้าย และไม่ต้องการพิสูจณ์ใดๆ ว่ามันคืออะไร เพราะแท่นเหล็กนี้ถือเป็นแลนมาร์คในชุมชนชายหาดบ้านใต้ นักท่องเที่ยวที่เข้ามาก็จะถาม ว่าคืออะไร ซึ่งไม่มีใครตอบได้รุ่นปูย่าตายาย ก็ไม่มีใครตอบได้ เพราะมีมาก่อนที่ท่านจะเกิด แต่วันนี้ มีการมาขุดออก ซึ่งใต้ชายหาดลึกลงไป ก็ยังมีชิ้นเหล็กอีกเยอะ รุ่นปูย่าตายาย สันนิษฐานกันว่า เป็นเรือสำเภา เป็นที่จอดเรือสินค้ามากมายในสมัยก่อนนี้
ผู้สื่อข่าวได้ถามต่อว่า ในเรื่องของการนำเครื่องจักรมาทำการขุดบริเวณชายหาดในทะเล มีกฎหมายรองรับหรือไม่ และผิดกฎหมายหรือไม นายณะรบ กล่าวว่า ถ้าอ้างอิงโดยข้อกฏหมาย ก็ผิดอยู่แล้ว เพราะไม่มีอำนาจหน้าที่ จะไปทำการเคลื่อนย้ายทุกอย่างที่อยู่ในทะเล ต้องทำการขออนุญาติเจ้าท่าก่อนเรื่องนี้ ต้องรอเจ้าท่ามาตรวจสอบ และทำการพิสูจน์กันต่อไป