ศูนย์ข่าวภูเก็ต – ตำรวจน้ำภูเก็ต สนธิกำลัง ทัพเรือภาค 3 และ ปปส.นำเรือ ต.ปิดล้อมจับกุมเรือไดร์วิ่งลอบขนยาไอซ์ 500 กิโลฯ ที่รับมาจากเกาะสอง ประเทศเมียนมาไปส่งต่อประเทศเพื่อนบ้าน แต่เจอพายุเข้าหลบที่อ่าวฉลอง กลางดึก ไต๋เรือกระโดดน้ำหนีดับ
รายงานข่าวจากจังหวัดภูเก็ตแจ้งว่า เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 24 ก.ย.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำภูเก็ต สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ปปส.ปป.5 ทัพเรือภาค 3 ศรชล.ภาค 3 และ กอ.รมน.ภูเก็ต พร้อมเรือตรวจการณ์จำนวน 3 ลำออกตรวจสอบเรือท่องเที่ยวต้องสงสัยที่คาดว่ามีการลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาบริเวณใกล้ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต
จากการตรวจสอบพบเรือโดยสาร 2 ชั้น จากนั้นเรือตรวจการณ์จึงปิดล้อมน่านน้ำ เพื่อปิดล้อมเข้าเทียบเรือลำดังกล่าว ขณะจอดอยู่ที่บริเวณท่าเรืออ่าวฉลอง จากตรวจค้นพบภายในเรือมีชายฉกรรจ์ จำนวน 4 คน ตรวจค้นพบยาไอซ์จำนวน 20 กระสอบ น้ำหนักกว่า 500 กิโลกรัม โดยขณะตรวจค้นได้มี 1 ใน 4 กระโดดน้ำหนีการตรวจค้นจับกุม และได้ไปเกาะที่เชือกผูกเรือบริเวณหัวเรือ อยู่ในสภาพอิดโรย ทราบชื่อต่อมา คือ ไต๋บัติ อายุ 61 ปี กัปตันเรือลำดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้ช่วยขึ้นมาพร้อมกับประสานรถพยาบาลนำส่งโรงพยาบาลฉลองและเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากนั้นได้นำเรือลำดังกล่าวพร้อมชายอีก 3 คนที่อยู่ในเรือกลับขึ้นฝั่งที่ท่าเรืออ่าวฉลอง ต.ฉลอง อ.เมือง ภูเก็ต พร้อมของกลางไปสอบปากคำและขยายผล
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เรือลำดังกล่าวเป็นเรือประเภทไดร์วิ่ง หรือนำนักท่องเที่ยวไปดำน้ำ ก่อนการจับกุม เรือลำดังกล่าวได้ไปรับยาเสพติดมาจากเกาะสอง ประเทศเมียนมา และคาดว่าจะนำยาเสพติดทั้งหมดไปส่งยังน่านน้ำสากลหรือชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากช่วงวันที่ 21-23 ก.ย.68 สภาพอากาศมีพายุและคลื่นลมแรง ทำให้ไม่สามารถเดินเรือไปส่งยาเสพติดได้ จึงได้เดินเรือเข้ามาหลบพายุบริเวณอ่าวฉลอง และคาดว่าจะเดินเรือต่อไปยังจุดหมายในวันที่ 26 ก.ย.68 เนื่องจากทะเลสงบ แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเสียก่อน
โดยยาเสพติดทั้งหมดรับมาจำนวน 1 ตัน แต่ได้แวะส่งให้เอเย่นต์ที่ จ.สตูลไปแล้ว 500 กิโลกรัม ส่วนที่เหลืออีก 500 กิโลกรัม เตรียมนำส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยอยู่ระหว่างการขยายผลไปถึงผู้สั่งการที่เป็นคนไทยอาศัยอยู่ที่เกาะสอง ประเทศเมียนมา รู้จักกันในชื่อ"ไต๋นู"