xs
xsm
sm
md
lg

เตือนอย่าหลงเชื่อ! สแกนม่านตาแลกเหรียญเงินจิดิทัล อาจถูกนำข้อมูลไปใช้ผิดกฎหมาย-ถูกดูดเงินเกลี้ยงบัญชี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ชุมพร - ปกครองเมืองชุมพร พบชาวไทย-เมียนมา จำนวนมาก เข้าร้านคอมพิวเตอร์ สแกนม่านตาแลกเหรียญเงินดิจิทัล สั่งหยุดบริการ พร้อม แจ้งเตือนอาจถูกนำข้อมูลไปใช้ผิดกฎหมาย และดูดเงินเกลี้ยงบัญชี



นายนพพร มีสติ ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองชุมพร จ.ชุมพร เปิดเผยว่าได้รับร้องเรียนจากแหล่งข่าวว่า มีร้านจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แห่งหนึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองชุมพร ริมถนนกรมหลวง ใกล้โรงพยาบาลประจำจังหวัด เพื่อให้ตรวจสอบการให้บริการกรณีฝ่าฝืนคำสั่งประกาศแจ้งเตือนของกรมการปกครอง ที่ประกาศแจ้งเตือน กรณีสแกนม่านตาแลกเหรียญเงินดิจิทัลคริปโทเคอร์เรนซี Cryptocurrency

ภายหลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย นายราเมศร์ ภักดีศรี และนายเจนวิทย์ จินตนพันธ์ ปลัดอำเภอเมืองชุมพร นำกำลัง สมาชิก อส. เฝ้าติดตามดูพฤติกรรมการให้บริการดังกล่าว ปรากฏว่ามีประชาชนทยอยเดินทางมาใช้บริการสแกนม่านตาที่ร้านคอมพิวเตอร์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก


จากนั้นจึงนำกำลังเข้าตรวจสอบภายในร้านดังกล่าว พบเป็นร้านจำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ โดยมีป้ายไวนิลแบบตั้งเป็นโครงเหล็กบอกถึงขึ้นตอนการเข้าร่วม World App และป้ายข้อความให้ผู้ใช้บริการอ่าน ระบุ “เพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง” ประมาณ 12 บรรทัด พิมพ์ไว้บนกระดา A4 ใส่กรอบพลาสติกใสวางอยู่บนพื้นใกล้กับกล้องสแกนม่านตา ทรงกลมชุบโครเมี่ยม โดยมีพนักงานชาย 2 คน ของร้านคอยบริการอำนวยความสะดวก

เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงได้แสดงตนเพื่อขอตรวจสอบ โดยพบว่าประชาชนที่มาใช้บริการ มีทั้งชายหญิงชาวไทยและชายหญิงชาวเมียนมา รวมประมาณ 20 คน บางรายอุ้มเด็กเล็กมาด้วย


ด้านพนักงานร้าน ชี้แจงว่า เครื่องสแกนม่านตาได้รับมาจากบริษัท World ซึ่งเมื่อสแกนม่านตาแล้วจะได้รับเป็นเหรียญ เวิร์ล คอย เพื่อแลกเป็นเงินสด หรือเก็บไว้เพื่อเก็งกำไรใช้ในการแลกเปลี่ยน โดยเปิดให้บริการมาแล้วประมาณ 2 เดือน

จากการสอบถามประชาชนที่มาใช้บริการ บอกว่า มีผู้ชักชวนให้มาสแกนม่านตาที่ร้านดังกล่าว และเมื่อสแกนม่านตาแล้วจะมีบุคคลโอนเงินให้ประมาณ 1,100 บาท ซึ่งบุคคลดังกล่าวอ้างว่าอาศัยอยู่ที่ จ.ภูเก็ต ขณะเดียวกันหญิงชาวเมียนมารายหนึ่งเปิดโทรศัพท์มือถือโชว์รูปภาพชายที่อ้างว่าเป็นบุคคลเดียวกันที่อยู่ จ.ภูเก็ต ให้เจ้าหน้าที่ดู พร้อมกับสลิปการโอนเงินจำนวน 1,100 บาท หรือ 52.22 เหรียญ


นายนพพร มีสติ ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองชุมพร กล่าวว่า กรมการปกครองไม่มีนโยบายให้ประชาชนสแกนม่านตา เรื่องดังกล่าวทางอำเภอเมืองชุมพรได้กำชับไปถึงผู้นำชุมชน เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนในพื้นที่มาตลอด เนื่องจากเงื่อนไขของธนาคารหากมีการโอนเงินเกินกว่า 6 หมื่นบาท เจ้าของบัญชีจะต้องสแกนม่านตา จึงจะสามารถโอนเงินได้ ซึ่งอาจทำให้พวกมิจฉาชีพนำข้อมูลม่านตาที่เราสแกนเข้าระบบคอมพิวเตอร์ไปใช้ในทางผิดกฎหมาย หรือโอนเงินในบัญชีของเราไปได้

ซึ่งในการลงพื้นที่ตรวจสอบครั้งนี้หลังจากได้รับแจ้งว่ามีการให้บริการสแกนม่านตาแลกเป็นค่าตอบแทนบางส่วนเช่น คริปโทฯ เวิร์ค คอย หรือเงินสด โดยประชาชนที่มาสแกนม่านตานั้น จะไม่ทราบผลเสีย ผลกระทบที่จะตอบกลับมาเป็นอย่างไรบ้าง


ทางอำเภอได้ขอความร่วมมือให้ทางร้าน จัดเก็บเครื่องสแกนม่านตา อุปกรณ์ต่างๆ เพื่อไม่ให้นำไปใช้ ไม่แนะนำสำหรับห้างร้านที่จะเปิดให้บริการ ขอความกรุณารอผล จากกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ วิเคราะห์ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น ส่วนกรมการปกครองทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับประชาชนเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีดังกล่าว กรมการปกครองได้แจ้งเตือน กรณีการสแกนม่านตาแลกเหรียญเงินดิจิทัล เนื่องจากได้รับรายงานว่ามีกลุ่มบุคคลใช้อุปกรณ์สแกนม่านตา ชื่อว่า Orb ในการสแกนเก็บข้อมูลม่านตาของประชาชนเพื่อยืนยันตัวตนตามห้างสรรพสินค้า และชักชวนไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเหรียญเงินดิจิทัลคริปโทเคอร์เรนซี Cryptocurrency เป็นเงินประมาณ 500 – 1,000 บาท


ขณะเดียวกันกรมการปกครอง ได้ตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่าการดำเนินการจัดเก็บข้อมูลม่านตาดังกล่าวนั้น ไม่ใช่การดำเนินการจัดเก็บข้อมูลของสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง หรือส่วนราชการอื่น ๆ จึงขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาสัมพันธ์ข้อมูลในท้องที่ สอดส่องการจัดกิจกรรมดังกล่าวอย่าให้เกิดการหลอกลวงประชาชน เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ วิเคราะห์ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น

ทั้งนี้ หากประชาชนถูกหลอกหลวงไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือพบเห็นการกระทำความผิดดังกล่าวสามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด/อำเภอ หรือสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567


กำลังโหลดความคิดเห็น