ชุมพร - สลดเมียเจ้าของอู่วัย 44 ปี ขับเฟอร์จูนเนอร์ไปรับลูกที่โรงเรียน ถูกกระบะสีดำเสียหลักเฉี่ยวชนตกคูข้างทางจมน้ำเสียชีวิต ส่วน คู่กรณีหายตัวหลังเกิดเหตุ
ร.ต.ท.ศุภวัชร์ เชื้อศักดิ์ ร ง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน และรถตกลงคูน้ำข้างถนนเพชรเกษมสายชุมพร-ระนอง หลักกม.ที่ 14-15 หมู่ 2 ตำบลวังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร มีผู้เสียชีวิต 1 ราย จึงพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสายชล มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ แพทย์โรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ไปตรวจสอบ โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา
ที่เกิดเหตุเป็นถนนทางคู่สีเลนีเกาะกลาง บริเวณฝั่งขาเข้าสี่แยกปฐมพร-ตัวเมืองชุมพร เยื้องทางเข้าวัดถ้ำสนุก มีชาวบ้านมุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก ส่วนผู้ประสบเหตุชาวบ้าน ได้เข้าให้การช่วยเหลือนำร่างออกจากรถยนต์โตโยต้า เฟอร์จูนเนอร์สีขาว ทะเบียน 6กฎ 6491 กรุงเทพมหานคร ที่ตกอยู่ในคูข้างทางสภาพหงายท้องจมน้ำครึ่งคัน ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.จีระภา เรืองจันทร์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61/2 หมู่ 5 ตำบลวังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร มีอาการแน่นิ่งไม่พบชีพจร หน่วยกู้ชีพฯพยายามปั้มหัวใจแต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้
จุดที่เกิดเหตุใกล้กันมีรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุ ดีแมค สีดำ สี่ประตู ทะเบียน 4 กณ 1325 กรุงเทพมหานคร จอดนิ่งตกอยู่ในคูน้ำข้างทาง ใกล้กับรถยนต์โตโยต้าเฟอร์จูนเนอร์ของผู้เสียชีวิต แต่ไม่พบคนขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวอยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนไหล่ทางมีร่องรอยลื่นไถลเป็นทางยาวประมาณ 50 เมตร
จากการสอบถาม นายอนุรักษ์ เรืองจันทร์ อายุ 47 ปี เจ้าของกิจการอู่ซ่อมรถยนต์ ซึ่งเป็นสามีผู้เสียชีวิต รุดมาดูศพหลังเกิดเหตุยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจพร้อมกับญาติคนอื่นๆ เล่าว่า ภรรยาได้ขับรถออกไปรับลูกที่โรงเรียนในตัวเมืองชุมพร โดยมีพี่สาวตนขับตามหลังมาและได้เห็นเหตุการณ์กับตาบอกว่า ภรรยาตนขับรถอยู่เลนซ้าย ส่วนกระบะคู่กรณีเหมือนกับว่าเสียหลักเนื่องจากมีฝนถนนมีน้ำ แล้วพุ่งมาชนท้าย ก่อนจะเสียหลักตกลงข้างทางไปด้วยกันทั้งสองคัน มีหลักฐานกล้องหน้ารถบันทึกไว้ได้
ส่วนทางด้าน น.ส.เดือนและน.ส.มิ้น อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเล่าว่า ได้ยินเสียงโครม จึงรีบวิ่งมาดูพร้อมกับชาวบ้าน พบว่ามีรถตกลงคูน้ำข้างทาง มีผู้หญิงติดอยู่ในรถยนต์เฟอร์จูนเนอร์ 1 คน สภาพลำตัวคาดเข็มขัดนิรภัยร่างจมน้ำ จึงช่วยกันนำตัวออกมาจากรถ ซึ่งมีอาการนิ่งไม่รู้สึกตัว และรีบแจ้งกู้ภัยให้การช่วยเหลือ ซึ่งขณะนั้นมีหญิงอายุประมาณ 35-40 ปี สวมเสื้อสีดำ รับว่าเป็นคนขับรถกระบะสีดำมาคนเดียว ไม่นานหลังจากนั้นเห็นหญิงคนดังกล่าวเดินข้ามถนนแล้วหายไปจากที่เกิดเหตุและไม่เห็นอีกเลย
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในระหว่างการตรวจสอบเก็บร่องรอยหลักฐานพร้อมทั้งสอบสวนพยานบุคคลในที่เกิดเหตุเพื่อติดตามคนขับรถคู่กรณีมาสอบปากคำระกอบกับสรุปหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป