xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านหนองทะเล รวมตัวยื่นหนังสือต่อกรรมาธิการท่องเที่ยวฯ ขอให้ยกเลิกป่าชุมชนแหลมสอม ชี้ไม่ครอบคลุม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กระบี่ – กลุ่มวิสาหกิจชุมนท่องเที่ยวบ้านหนองทะเล รวมตัวยื่นหนังสือต่อกรรมาธิการท่องเที่ยวฯ วุฒิสภา ขอให้ยกเลิกป่าชุมชนแหลมสอม เดือดร้อนจากจัดเก็บค่าธรรมเนียม คณะกรรมการฯไม่ครอบคลุม

วันนี้ ( 13 ก.ย.68) ผู้สืาอข่าวรายงานว่า ขณะที่ นายพิศูจน์ รัตนวงศ์ ประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและการกีฬา วุฒิสภา พร้อมด้วย นายธัชชญาณ์ณัช เจียรธนัทกานนท์ รองคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและการกีฬา และคณะ ได้ร่วมกันลงพื้นที่คลองหรูดคลองน้ำใส หมู่ที่ 1 บ้านหนองทะเล และหมู่ที่ 4 บ้านแหลมสอม ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ เพื่อศึกษาดูงานเกี่ยวกับการส่งเสริมให้ประเทศไทย เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ เพื่อศึกษาแนวทางพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวรองรับนักท่องเที่ยวตามรอยภาพยนตร์ ที่ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก


โดยคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและการกีฬาวุฒิสภา ได้ลงลงเรือคายัคชมทัศนียภาพและสภาพภูมิประเทศของพื้นที่คลองหรูดและคลองน้ำใส พบว่าพื้นที่โดยรวมเป็นแหล่งน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่รวมเนื้อที่ 110 ไร่ รอบๆแหล่งน้ำเป็นสวนยางพาราที่ชาวบ้านครอบครอง และบางแห่งเป็นผืนป่าซับน้ำหรือแหล่งต้นน้ำจากธรรมชาติ ที่ผืนน้ำอยู่ในท้องที่หมู่ที่ 1 บ้านหนองทะเล 95% และอยู่ในท้องที่หมูที่ 4 บ้านแหลมสอม 5%

โดยมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติได้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ขณะที่คณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและการกีฬาวุฒิสภา พายเรือคายัคมาถึงท่าเรือก่อนถึงบ่อน้ำ ผุด ต้นน้ำคลองน้ำใส ได้มีตัวแทนกลุ่มวิสาหกิจชุมนท่องเที่ยวบ้านหนองทะเล ซึ่งเปิดให้บริการพายเรือคายัค มายืนถือป้ายข้อความ อาทิ ชาวบ้านตำบลหนองทะเลไม่เอาป่าชุมชนแหลมสอม ยกเลิกคณะกรรมการป่าไม้ชุมชนหมู่ที่ 4 บ้านแหลมสอม โดยนายธัชชญาณ์ณัช เจียรธ นัทกานนท์ รองประธานคณะกรรมมาธิการการท่องเที่ยวและการกีฬาวุฒิสภา ได้ขึ้นจากเรือคายัคมารับหนังสือจากนายนิติ ดำริการ และนายสุมิตร รักโอ่ ผญบ.ม.1 ที่รวมจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมนท่องเที่ยวบ้านหนองทะเล ซึ่งเปิดให้บริการพายเรือคายัคในคลองหรูดคลองน้ำใส เช่นเดียวกัน


โดยเนื้อหาในหนังสือที่ยื่นครั้งนี้ มีสาระสำคัญพอสรุปได้ว่า ชาวบ้านหนองทะเลและบ้านแหลมสอม จำนวน 13 แห่ง รวมคนงาน 259 คน ได้รับความเดือดร้อนจากการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพายเรือคายัค เนื่องจากการตั้งคณะกรรมการป่าชุมชนบ้านแหลมสอม เมื่อปี 2567 เป็นไปอย่างไม่โปรงใส่ มีแต่ตัวแทนชาวบ้านแหลมสอมเท่านั้นที่เข้าไปเป็นคณะกรรมการ โดยไม่มีตัวแทนชาวบ้านหนองทะเลแม้แต่คนเดียว มีเสียงวิพากวิจารณ์ต่างๆนานา ทั้งมีการคัดค้านจากผู้นำชุมชนผู้นำท้องที่ แต่ก็ไม่เป็นผล สำนักบริหารจัดการอนุรักษ์ป่าไม้ที่ 12 จังหวัดกระบี่ ไม่รับฟังเสียงคัดค้านแต่อย่างใด

ต่อมาเดือนพฤษภาคม 2568 คณะกรรมการป่าชุมชนบ้านแหลมสอม ตั้งจุดเก็บค่าธรรมเนียมกลางลำคลอง ตั๋วแต่ละใบไม่มีลายเซ็นกำกับ บางวันมีเจ้าหน้าที่จากสำนักบริหารฯดังกล่าวมาร่วมด้วย มีการพกพาอาวุธอีกด้วย และไม่ทราบว่าเงินที่ได้นำไปทำอะไรบ้าง ได้มีการสอบถามแต่ไม่ได้รับคำตอบ และมีการบริหารป่าชุมชนผิดวัตถุประสงค์ปล่อยให้มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม จึงจำเป็นต้องเรียกร้องขอความเป็นธรรม ยกเลิกป่าชุมชนบ้านแหลมสอมและคณะกรรมการชุดนี้ แล้วตั้งป่าชุมชนขึ้นมาใหม่คลอบคลุมทั้ง 2 หมู่บ้าน คณะกรรมการชุดใหม่ต้องมีตัวแทนทั้ง 2 หมู่บ้านเป็นคณะกรรมการร่วม


โอกาสนี้นายธัชชญาณ์ณัช เจียรธนัทกานนท์ รองประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและการกีฬา ได้เปิดเผยถึงข้อเรียกร้องของกลุ่มวิสาหกิจชุมนท่องเที่ยวบ้านหนองทะเล ซึ่งเปิดให้บริการพายเรือคายัคในคลองหรูดคลองน้ำใส ว่า วันนี้ทางคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและการกีฬา วุฒิสภา ได้มาลงพื้นที่หมูที่ 1 บ้านหนองทะเล ที่คลองหรูดคลองน้ำใส มารับทราบถึงประเด็นปัญหาเรื่องของการร่วมมือด้านการพัฒนาการท่องเที่ยว การบริหารจัดการในระหว่างชุมชน ตรงนี้เราจะนำข้อมูลที่ได้รับจากชาวบ้านหนองทะเล นำไปพิจารณาในการประชุมของคณะกรรมมาธิการฯ เพื่อจะได้หาแนวทางเพื่อให้ประชาชนที่อยู่ในบริเวณนี้มีความรักความสามัคคี และการพัฒนาการท่องเที่ยวให้ยั่งยืน

ความเป็นไปได้ในการยกเลิกป่าชุมชนบ้านแหลมสอม และคณะกรรมการป่าชุมชนที่แต่งตั้งขึ้นโดยมิชอบว่า วันนี้เราคงต้องนำข้อมูลที่ได้จากบ้านหนองทะเล และข้อมูลที่ได้จากคณะกรรมการป่าชุมชนบ้านแหลมสอม ไปพิจารณาร่วมกันว่าในแต่ละบริบทมีความสำคัญอย่างไร เราจะได้นำข้อมูลต่างๆเหล่านี้เพื่อมาบูรณาการและหาทางออกร่วมกัน อยากให้ประชาชนในพื้นที่และผู้ประกอบการอยู่กันแบบมีความสุขและรักสามัคคี


ส่วนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมของคณะกรรมการป่าชุมชนบ้านแหลมสอม ซึ่งมาตั้งจุดเก็บในพื้นที่บ้านหนองทะเล ถือว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่นั้น ในส่วนของการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเราพึ่งจะทราบจากทางาวบ้านหนองทะเล เราจะต้องนำข้อมูลเหล่านี้ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะได้ทราบข้อมูลต่อไปว่าถูกต้องหรือไม่อย่างไร


กำลังโหลดความคิดเห็น