ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เตรียมพบกับประติมากรรมถาวรชิ้นที่ 2 ของงาน Thailand Biennale, Phuket 2025 "DHEVEENA" สูง 8 เมตร ติดตั้งมุมสุดปลายแหลมสะพานหิน หวังให้เป็น Landmark แห่งใหม่ หลังประติมากรรมชิ้นแรก “Richest Rolle ติดตั้งเสร็จแล้ว
ตามที่จังหวัดภูเก็ตได้รับการคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมร่วมสมัยนานาชาติ ครั้งที่ 4 Thailand Biennale Phuket 2025 เพื่อพลิกโฉมภูเก็ตสู่เมืองศิลปะโลก ซึ่งกำหนดจัดระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน 2568 – 30 เมษายน 2569 โดยงานดังกล่าวจะมีการสร้างผลงานศิลปะหลายชิ้นงาน และจัดแสดงตามจุดต่างๆของจังหวัดภูเก็ตเป็นเวลา 5 เดือน แต่ จะมีงานประติมากรรม 3 ชิ้นงาน เป็นประติมากรรมถาวร ติดตั้งในพื้นที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน จ.ภูเก็ต เพื่อสร้างเป็นแลนด์มาร์คใหม่ให้กับจังหวัดภูเก็ต
โดยผลงานประติกรรมชิ้นแรก ได้มีการติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ที่บริเวณสะพานหิน จ.ภูเก็ต ฝั่งเดียวกับพื้นที่ป่าชายเลน นั้นคือ “Richest Roller" ความมั่งคั่งอันเป็นนิรันดร์ ซึ่งผลงานของ ดร. กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ ที่สะท้อนแนวคิดเรื่องความรุ่งเรือง ความงดงาม และความยั่งยืนของชุมชน โดยจะเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างบรรยากาศทางศิลปะในพื้นที่เมืองภูเก็ต เพื่อดึงดูดทั้งประชาชนและนักท่องเที่ยวให้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรมและศิลปะร่วมสมัย
และล่าสุด ทางคณะผู้จัดงานได้ลงพื้นที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน จ.ภูเก็ต นำโดยนางอัญชลี วานิช เทพบุตร นายกสมาคมศิลป์ภูเก็จ นายศุภโชค ละอองเพชร นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นายอารีย์ คงพล อุปนายกสมาคมฯ ผู้ออกแบบงานประติมากรรม "DHEVEENA" ซึ่งเป็นประติมากรรมถาวรชิ้นที่ 2 ที่จะนำมาติดตั้งที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยมี โดยมี นายพิบูลศักดิ์ กิตติธรกุล รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นายธชานนท์ อังคณาพิลาส ประธานสภาเทศบาลนครภูเก็ต นายยุทธนา กาญจนภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักช่าง เทศบาลนครภูเก็ต เจ้าหน้าที่กองการท่องเที่ยวและกีฬา เจ้าหน้าที่สำนักช่าง เทศบาลนครภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่
สำหรับ ประติมากรรม DHEVEENA (เดวีน่า) เป็นผลงานประติมากรรม ที่ผสมผสานรูปลักษณ์ของมนุษย์กับปลาสิงห์โต หมายถึงเทวีแห่งท้องทะเล ผู้พิทักษ์และ ปกป้องความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติทางทะเล รูปทรงที่พลิ้วไหวสะท้อนถึงความงดงาม อ่อนช้อย และ พลังชีวิตอันไม่สิ้นสุดของท้องทะเล ผลงานชิ้นนี้จึงมิใช่เพียงศิลปกรรม หากยังเป็สัญลักษณ์ของการตระหนักรู้และ มุ่งหวังให้ผู้ชมตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของการอนุรักษ์ท้องทะเลให้คงอยู่อย่างยั่งยืน
โดยตัวชิ้นงานประติมากรรมมีความสูง 8 เมตร จะติดตั้งในบริเวณมุมสุดปลายแหลมสะพานหิน โดยคาดหวังให้เป็น Landmark แห่งใหม่ของจังหวัด เพื่อให้ภูเก็ตเป็นเมืองศิลปะแห่งการสร้างสรรค์อย่างยั่งยืนต่อไป โดยจะติดตั้งเสร็จประมาณ เดือน พ.ย. 68
อย่างไรก็ตามสำหรับบริเวณปลายแหลมสะพานหิน จะมีการติดตั้งผลงานประติมากรรมทั้งหมด 3 ชิ้น ซึ่งอีกชิ้นเป็นผลงานของ อ.ปิตุพงษ์ เชาวกุล "THE LABYRINTH#2" "เขาวงกตโปร่งแสง" เป็นแนวคิดเรื่อง "การหลบซ่อน" หรือ "การค้นหาซึ่งกันและกัน" ซึ่งผลงานประติมากรรมถาวรทั้ง 3 ชิ้นที่จะติดตั้งบริเวณสะพานหินจะกลายเป็นประติมากรรมที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปเช็คอินมากขึ้นและกลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของภูเก็ตอีกแห่งหนึ่ง