xs
xsm
sm
md
lg

ก่อคดีฉ่ำ ! ตร.ทางหลวง บุกรวบอดีตเจ้าของเต็นท์รถ ตระเวนหลอกซื้อรถ ไปขายตลาดมือ มีหมายจับ 10 หมาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจทางหลวง จับกุมอดีตเจ้าของเต็นท์รถตระเวนก่อเหตุหลอกซื้อรถมือ 2 ที่ติดไฟแนนท์ ก่อนนำรถไปส่งขายเข้าตลาดมืด ก่อคดีฉ่ำ ทั้งในภูเก็ต พังงา กระบี่ กรุงเทพ มีหมายจับมากถึง 10 หมาย

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. นำโดย พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ มีมุสิก สวญ.ส.ทล.1 กก.7 บก. พร้อมพวกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.1 กก.7 บก.ทล. (พังงา, กระบี่, ภูเก็ต) ร่วมกันจับกุม นายวีระพงษ์ อายุ 50 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 252/2566 ลงวันที่ 7 กันยายน 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม””

โดยสามารถจับกุมได้ขณะขับรถอยู่ในพื้นที่ ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 16.40 น.

สำหรับการจับกุมในครั้ง สืบเนื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้สืบสวนทราบว่า นายวีระพงษ์ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับข้างต้น จะมาปรากฎตัวอยู่ที่บริเวณสถานที่จับกุม จึงได้วางแผนเข้าตรวจสอบเพื่อจับกุม จนกระทั่งพบผู้ถูกจับตามข้างต้นปรากฎตัวอยู่ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้จากการตรวจสอบจากระบบฐานข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ระบบ CRIMES) พบว่าผู้ถูกจับนี้ ยังเป็นบุคคลตามหมายจับอื่น ซึ่งแสดงสถานะ มีผลบังคับใช้ตามกฎหมายอีกจำนวน 9 หมายจับ ได้แก่ ซึ่งมีทั้งความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์โดยร่วมกระทำผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป” กระทำผิดฐาน “ยักยอก” กระทำผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” กระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง” (คดีของ สน.หนองแขม) ซึ่งมีทั้งที่ก่อคดีในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต กระบี่ พังงา และกรุงเทพมหานคร

จากการตรวจสอบแผนประทุษกรรมทราบว่า ผู้ถูกจับรายนี้ได้ร่วมกับพวกตระเวนหลอกซื้อรถยนต์มือสอง จากผู้เช่าซื้อที่ผ่อนไม่ไหวหรือไม่ต้องการผ่อนต่อ โดยใช้อุบายหลอกว่าจะไปจ่ายเงินปิดยอดที่ค้างจ่ายค่างวดให้ และ ทำการเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อจากทางไฟแนนซ์ให้ แต่เมื่อได้รับรถไปแล้วผู้ต้องหากับพวกกลับนำรถไปขายต่อในตลามือ โดยไม่ได้ไปจ่ายค่างวดหรือเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อแต่อย่างใด และตัดการติดต่อกับเจ้าของเดิม ทำให้เจ้าของรถซึ่งเป็นผู้เช่าซื้อเดิมได้รับความเสียหายจึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา


กำลังโหลดความคิดเห็น