ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กรรมาธิการเศรษฐกิจฯ วุฒิสภา ลงพื้นที่ภูเก็ตรับฟังปัญหาโรงแรมเล็กยื่นขอใบอนุญาตเปลี่ยนแปลงการใช้อาคารขยังไม่ได้ หลังกฎกระทรวงฯ ฉบับที่ 4 สิ้นสุดลง18 ส.ค. เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการยื่นอีกรอบ เมื่อกฎกระทรวงฉบับที่ 5 บังคับใช้ๆ เผยโรงแรมในภูเก็ตกว่า 5000 แห่ง ไม่มีใบอนุญาต
คณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง วุฒิสภา นำโดย นายนิพนธ์ เอกวานิช รองประธานคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง วุฒิสภา ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตรับฟังปัญหาและร่วมหารือกับผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กในเขตเทศบาลเมืองป่าตอง โดยมี นางลลิตา มณีศรี นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ให้การต้อนรับ และกล่าวถึงภาพรวมการท่องเที่ยวของเทศบาลเมืองป่าตอง และคณะผู้บริหารเทศบาล สมาคมโรงแรมบูติกภูเก็ต ผู้ประกอบการโรงแรม และผู้ประกอบการที่พักขนาดเล็ก เจ้าร่วมประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และนำเสนอถึงปัญหาและอุปสรรคในการยื่นขอดัดแปลงอาคารเพื่อนำมาประกอบการธุรกิจโรงแรม ณ ห้องประชุมเทศบาลเมืองป่าตอง จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568
หลังจากกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม ฉบับที่ 4 พ.ศ. 2566 สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา แต่ยังมีผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กจำนวนมาก ที่ไม่สามารถขอยื่นขอการเปลี่ยนแปลงการใช้อาคารกับทางเทศบาลเมืองป่าตองได้ทันตามที่กฎหมายกำหนด 18 สิงหาคม 2568 ที่ผ่าน
โดยข้อมูลจากเทศบาลเมืองป่าตอง ระบุว่า ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2559 ถึงปัจุบันนี้ มี โรงแรมขนาดเล็กที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมได้ยื่นขอเปลี่ยนแปลงการใช้อาคารมายังเทศบาลเมืองป่าตองจำนวนสอง 247 ราย ผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนด 103 ราย และทางเทศบาลได้ออกไปตรวจสอบยังโรงแรมที่ยื่นขอและออกใบอนุญาตการเปลี่ยนแปลงอาคารไปได้เพียง 8 รายเท่านั้น ทั้งนี้เนื่องจากยังติดปัญหาในหลายๆเรื่องที่ผู้ประกอบการยังไม่สามารถแก้ไขให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ทางหนีไฟ บันไดหนีไฟ ประตูหนีไฟ เป็นต้น
นายนิพนธ์ เอกวานิช รองประธานคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจฯ วุฒิสภา เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากจังหวัดภูเก็ตว่า มีผู้ประกอบการโรงแรมและที่พักขนาดเล็กที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการกว่า 5,000 แห่ง ซึ่งทางจังหวัดจะใช้วิธีออกหนังสือเชิญให้ผู้ประกอบการดังกล่าวมาขอใบอนุญาตโรงแรมเพราะตัวเลขที่จดทะเบียนในขณะนี้มีไม่ถึง 20% ซึ่งเป็นปัญหาที่กำลังเร่งดำเนินการแก้ไข ดังนั้นจึงจำเป็นต้องบูรณาการการแก้ไขร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน โดยให้ภูเก็ตเป็นพื้นที่นำร่องในการแก้ไขปัญหาเพราะถ้าภูเก็ตแก้ไขได้ปัญหานี้ก็จะสามารถนำไปใช้กับพื้นที่อื่นๆในเมืองท่องเที่ยวต่อไป
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม ได้แนะนำให้ผู้ประกอบการที่ยังไม่ผ่านการพิจารณาขอเปลี่ยนแปลงการใช้อาคารอื่นมาประกอบการกิจการโรงแรม เตรียมความพร้อมด้วยการปรับปรุงอาคารให้พร้อมที่จะยื่นขอใบอนุญาตอีกครั้ง หลังกฎหมายฉบับที่ 5 มีผลบังคับใช้ ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง อยู่ระหว่างการยื่นเรื่องเพื่อขอขยายเวลาและมีการปรับปรุงกฎกระทรวงฉบับดังกล่าวให้ถาวร เพื่อจะได้ไม่ต้องมาขยายเวลาอีกต่อไป ขณะเดียวกันก็ได้รีบความร่วมมือจากทางจังหวัดภูเก็ต ในการให้ผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้ยื่นขออนุญาต ให้เร่งนำหลักฐานต่างๆ ไปยื่นเรื่องไว้ที่อำเภอ ระหว่างการแก้ไขกฎกระทรวง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน โดยเฉพาะการปรับปรุงในเรื่องของความปลอดภัย ทั้งทางหนีไฟ ประตูหนีไฟ รวมไปถึงถังดับเพลิง เป็นต้น เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ก็สามารถที่จะนำสถานประกอบการนั้นๆ มาพิจารณาและตรวจสอบให้เป็นไปตามกฏหมายก็จะทำให้เกิดความรวดเร็วขึ้น
หลังการประชุม คณะฯ ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมโรงแรมขนาดเล็กที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการและโรงแรมที่ยังไม่ได้รับอนุญาต