นครศรีธรรมราช – สองนักเลี้ยงวัวโคจรมาเจอกันกลางถนนเปิดศึกดวลกันดับ 1 ราย ตร.ตามถึงบ้านพบแม่ผู้ก่อเหตุ เผยลูกชายมาบอกว่าแทงคนก่อนหลบหนีไป เหตุจากปัญหาหญ้าเลี้ยงวัวที่ทะเลาะกันมานาน เหตุเกิดในพื้นที่ ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
วันนี้ (14 ส.ค.) พ.ต.อ.กิตติชัย ไกรนรา ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พ.ต.ท.นรากร เอียดช่วย รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม พนักง่านสอบสวนและชุดสืบสวน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุบนถนนคอนกรีตในหมู่บ้านสายบ้านนอกท่องโพธิ์หิน-บ้านแหวด หมู่ 4 ต.นาทราย อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช หลังจากรับแจ้งเหตุฆาตกรรมมีผู้เสียชีวิตอยู่บนถนนสายดังกล่าว
ในที่เกิดเหตุริมถนนพบศพทราบชื่อ นายสุทิน บุญอมร อายุ 76 ปี หรือลุงจ้อง สภาพศพอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตแขนสั้น กางเกงขาสั้น สวมหมวกสีแดง หน้าอกมีแผลฉกรรจ์จากของมีคมเลือดโชก ตรวจสอบพบว่ามีคนขับรถจักรยานยนต์มาพบร่าง นายสุทิน นอนอยู่ข้างถนน จึงรีบไปแจ้ง นายอำนวยโชค คงเสน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.นาทราย เข้าตรวจสอบโดยเบื้องต้นเข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชน เมื่อตรวจสอบบาดแผลพบว่าเป็นการฆาตกรรม
นายอำนวยโชค ผู้ใหญ่บ้านและลูกชายของผู้ตายให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า นายสุทิน มีปัญหาทะเลาะวิวาทกับ นายวิโรจน์ เจนจิตร หรือเอก อายุ 48 ปี มีบ้านพักอยู่ใกล้กันกับบ้านของผู้ตาย ห่างจากที่เกิดเหตุเพียงไม่ถึง 100 เมตร มีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้วว่าหากเกิดเหตุขึ้น คาดว่าอาจเป็นฝีมือของ นายวิโรจน์
พ.ต.ท.นรากร เอียดช่วย รอง ผกก.ป.จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบพบว่าบ้านเงียบปิดสนิท แต่สังเกตเห็นว่าบ้านปิดล็อกจากภายใน จึงพยายามเรียกจนพบว่ามี นางปราณี ดาวัลย์ อายุ 75 ปี เปิดประตูมาพบเจ้าหน้าที่ และยอมรับด้วยสีหน้าตกใจว่าผู้ก่อเหตุคือ นายวิโรจน์ ลูกชายของตนจริง โดยหลังจากเกิดเหตุลูกชายได้มาบอกว่าแทง นายสุทิน เสียชีวิตแล้ว จากนั้นจึงได้หลบหนีไปโดยใช้รถจักรยานยนต์
นางปราณี ให้ข้อมูลว่า นายวิโรจน์ และ นายสุทิน มีปัญหาวิวาทกันเรื่องเลี้ยงวัว โดย นายวิโรจน์ ลูกชายมีแปลงหญ้าที่ดูแลอยู่สำหรับเลี้ยงวัว แต่ นายสุทิน ได้ปล่อยวัวเข้ามากินหญ้า เมื่อลูกชายไปบอกกล่าว นายสุทิน ได้ด่าและบอกว่าไม่ใช่ที่ดินของพ่อมึง หลังจากนั้นจึงมีปัญหากันเรื่อยมา โดยก่อนเกิดเหตุคาดว่าลูกชายเดินไปเลี้ยงวัวแล้วน่าจะไปเจอกันทำให้เกิดเหตุการณ์ขึ้น
โดยหลังจากเจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลแล้วได้เร่งติดตาม นายวิโรจน์ หรือเอก อย่างเร่งด่วน ส่วนในที่เกิดเหตุแพทย์นิติเวชได้เข้าชันสูตรก่อนนำร่างไปชันสูตรเพิ่มเติม และมีการเก็บหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นอาวุธมีคมของทั้งสองฝ่ายเพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีต่อไปแล้ว