xs
xsm
sm
md
lg

ท่องเที่ยวภูเก็ตยังไม่ถึงทางตัน จีนหายเกือบ 50 % แต่ ตลาดอื่นโตขึ้น แนะรับมือกลุ่มนักท่องเที่ยวเปลี่ยน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ท่องเที่ยวภูเก็ตไม่ถึงทางตัน 7 เดือนแรกปี 68 นักท่องเที่ยวจีน ลดลงเกือบ 50 % ส่วน ตลาดอินเดีย อิสราเอล โต มากกว่า 50% ภาพรวมท่องเที่ยวโต ขึ้นในอัตราที่ลดลง แนะผู้ประกอบการปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงของ นทท.


นายรังสิมันตุ์ กิ่งแก้ว ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ในช่วง 7 เดือนแรก ของปี 2568 ว่า การท่องเที่ยวของภูเก็ต และรายได้จากการท่องเที่ยว ที่เข้ามาภูเก็ต ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่โตในลักษณะหดตัว หรือที่เรียกว่าโตแบบลดลง ส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวก็เช่นกัน ปีนี้โตแค่ 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 67 และข้อมูลนักท่องเที่ยวที่ผ่าน ตม.จะเห็นว่าตั้งแต่ เม.ย. - มิ.ย. 68 พบว่า นักท่องเที่ยวจีนเริ่มลดลง ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวโตแบบชลอตัวไปด้วย

แต่ถ้ามาดูภาพรวมการท่องเที่ยวในช่วง 7 เดือนแรก ของปี 68 พบว่าอัตราการท่องเที่ยวของภูเก็ตโตอยู่ที่ประมาณ 3 % ทำไมอัตราการท่องเที่ยวของภูเก็ตยังโตอยู่ๆ ทั้งๆที่นักท่องเที่ยวจีนลดลง ก็เนื่องจาก ภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวจากชาติอื่นๆเดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้น เช่น นักท่องเที่ยวอิสราเอล โตขึ้น 60% อินเดีย 50% ซาอุดิอาระเบีย 30% อังกฤษ 23% สหรัฐ 17% รัสเซีย 10%


นายรังสิมันตุ์ กล่าวต่อไปว่า จะเห็นว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวแต่ละประเทศโต ในอัตราที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสาเหตุที่ทำให้นักท่องเที่ยวบางตลาดโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก็มีผลมาจากการที่ ทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต ได้ร่วมกับ อบจ.ภูเก็ต ออกไปทำการตลาด Road Show ในเมืองต่างๆ ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจ ทำให้การตัดสินใจเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของตลาดเหล่านี้มีมากขึ้นอย่างเหตุได้ชัด โดยเฉพาะหลังจากการทำโรคโชว์ ที่ เกาหลี พบมีการไฟล์ทบินเข้ามาที่ภูเก็ตอีก 3 ไฟล์ทบิน ทำให้สามารถนำนักท่องเที่ยวจากเกาหลีเข้ามาภูเก็ตได้มากขึ้น และสังเกตเห็นว่า ไฟล์ทบินระยะไกล คือ มากกว่า 6 ชม. โตขึ้นทุกตลาด ส่วนเที่ยวบินในเดือน ก.ค. ก็ลดลง 10% ซึ่งก็เป็นเที่ยวบินจากจีนเกือบทั้งหมด

“ในห้วง 3 เดือน คือ พ.ค - ก.ค. หลายคนมองว่า เศรษฐกิจในพื้นที่ไม่ดี เงียบเหงา นักท่องเที่ยวหาย ส่วนหนึ่งที่ทำให้เห็นภาพเหล่านี้ก็เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงจากช่วงเดียวกันกับปี 67 มากถึง 43% ฮ่องกง ลดลง 36% ถือว่าตัวเลขหดตัวลงค่อนข้างรุนแรง ถ้าเราดูเฉพาะเดือนกรกฎาคม 68 จะเห็นว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีน หรือ ประเทศที่ใช้ภาษาจีนหดตัวลง อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทุกๆปี ช่วงเดือนกรกฎาคม จะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจำนวนมาก โดยเมื่อ ปี 67 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาภูเก็ต มากถึง 110,000 คน แต่ปีนี้เหลือไม่ถึง 60,000 คน ลดลงประมาณ 50,000 คน ทำให้ตัวเลขท่องเที่ยวรวมลดลง 40,000 คน


ส่วนสาเหตุที่ทำให้ตลาดจีนลดลง เกือบ 50% เมื่อเทียบกับปี 2567 ก็เนื่องจากปัญหาไม่มั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ในการมาเที่ยวประเทศไทย รวมถึงการแสดงออกของคนไทยต่อคนจีนที่ทำให้รู้สึกว่าคนไทยไม่ต้อนรับคนจีนที่เข้ามาหาผลประโยชน์ในประเทศไทยซึ่งเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น แต่ข่าวได้กระจายไปรวดเร็วว่าคนไทยไม่ต้อนรับคนจีน

อย่างไรก็ตามแม้ว่าตลาดนักท่องเที่ยวจีนจะลดลง แต่ในส่วนของนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆ ไม่ได้ลดลง และ พบว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ โดยตัวเลขในเดือน พ.ค. - ก.ค. 68 พบว่านักท่องเที่ยวจากประเทศจีนเดินทางเข้ามาภูเก็ตมากเป็นอันดับหนึ่ง นอกจากนั้นยังมี อิสราเอล ซาอุดิอาระเบีย อังกฤษ สหรัฐ และ รัสเซีย


นายรังสิมันตุ์ ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่คนภูเก็ต หรือรัฐบาลต้องคิด หลังกลุ่มนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไปจากเดิม เมื่อ นทท.อินเดีย มาเป็นอันดับ 1 การส่งเสริมการท่องเที่ยว เราจะยังทำแบบเดิมไม่ได้ แล้ว เนื่องจากพฤติกรรมการท่องเที่ยวต่างกัน ก็ต้องปรับตัว ในการที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มเพื่อสร้างแรงจูงใจ และ สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม แม้การท่องเที่ยวจะยังโตต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีเสียงสะท้อน จากเอเจนซี่ ที่นำนักท่องเที่ยวเข้ามา โดยเฉพาะ ข้อกังวลในการเดินทางมาท่องเที่ยว ได้แก่ การขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่ไม่ปลอดภัย ปัญหาการจราจรแออัด และ ปัญหา Over Tourism คือมีนักท่องเที่ยวเยอะเกินไปในช่วงไฮซีซั่น แต่สิ่งที่ชื่นชมคือ การทำงานของด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. ที่ทำงานเร็วขึ้น นักท่องเที่ยวไม่ต้องรอนาน

ทั้งนี้ นายรังสิมันต์ กิ่งแก้ว ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชาในปัจจุบันว่า ไม่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตแต่อย่างใด เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าภูเก็ตยังคงมีความเชื่อมั่นและเดินทางอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่นักท่องเที่ยวเป็นห่วงคือเรื่องของการก่อเหตุในพื้นที่ เช่น เหตุการณ์กราดยิงที่ตลาด อตก. เมื่อเร็วๆนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น