ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ประมงจังหวัดสงขลายืนยันดำเนินการรื้อโพงพางไม่เลือกปฏิบัติ พื้นที่อื่น ๆ จะดำเนินการตามนโยบายประมงแห่งชาติ เพื่อความเสมอภาคในการใช้พื้นที่สาธารณะ พร้อมเตรียมหามาตรการช่วยเหลือเน้นส่งเสริมอาชีพเพื่อความยั่งยืน
วันนี้ (8 ส.ค.) นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา มอบหมายให้ นายเจริญ โอมณี ประมงจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่ร่วมกับผู้แทนจากทัพเรือภาคที่ 2, กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ, ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 2, กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสงขลา และ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา ติดตามสถานการณ์การรวมตัวของกลุ่มชาวประมงที่ใช้เครื่องมือประมงประเภท “โพงพาง” ซึ่งมีการติดตั้งขวางร่องน้ำบริเวณปากทะเลสาบสงขลา ส่งผลกระทบต่อการเดินเรือพาณิชย์ การขนถ่ายสินค้า การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจของจังหวัด
นายเจริญ โอมณี ประมงจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า การดำเนินการจัดระเบียบเครื่องมือประมงประเภท “โพงพาง” ในพื้นที่ร่องน้ำทะเลสาบสงขลา เป็นไปตามข้อสั่งการของ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ซึ่งให้ความสำคัญกับการรักษาพื้นที่ร่องน้ำสาธารณะที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน โดยเฉพาะในด้านทรัพยากรทางน้ำและการสัญจรทางเรือ จึงได้มีการวางแผนดำเนินงานอย่างเป็นระบบครอบคลุม 7 ขั้นตอน เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
ในระยะแรกเป็นการสร้างการรับรู้แก่ประชาชนและชาวประมง พร้อมจัดทำแผนที่และรายชื่อผู้ใช้โพงพางในร่องน้ำ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการหารือร่วมกัน ตลอดจนเสนอทางเลือกในการปรับเปลี่ยนอาชีพเพื่อลดผลกระทบ ต่อมาเป็นการพูดคุยตกลงร่วมกันระหว่างภาครัฐกับชาวประมง จนถึงขั้นตอนที่ 6 ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการในขณะนี้ คือ การบังคับใช้กฎหมายตามความจำเป็น โดยอ้างอิงพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 มาตรา 67 (1) ซึ่งระบุให้ “โพงพาง” เป็นเครื่องมือประมงผิดกฎหมาย
สำหรับพื้นที่ดำเนินการบริเวณร่องน้ำปากทะเลสาบสงขลา ความยาวประมาณ 5.2 กิโลเมตร มีโพงพางทั้งหมด 13 แถว รวมจำนวน 159 ช่อง ในรัศมี 300 เมตรจากปากร่องน้ำ โดยผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ยืนยันเป้าหมายในการรื้อถอนโพงพางทั้งหมดเพื่อคืนพื้นที่เส้นทางเดินเรือหลักให้ปลอดภัยและเปิดกว้าง ส่วนพื้นที่อื่น ๆ จะดำเนินการในระยะยาวตามนโยบายประมงแห่งชาติ พร้อมเน้นย้ำการลดความตึงเครียด และสร้างความเข้าใจในเจตนารมณ์ของภาครัฐที่มุ่งฟื้นฟูทรัพยากรน้ำ สนับสนุนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ส่วนขั้นตอนสุดท้ายจะมีการควบคุมและติดตามหลังการรื้อถอนเพื่อป้องกันการนำเครื่องมือผิดกฎหมายกลับมาติดตั้ง พร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเพื่อให้เกิดความเสมอภาคในการใช้พื้นที่สาธารณะ
ประมงจังหวัดสงขลา กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้การดำเนินการจะเป็นไปตามกฎหมาย แต่ทางจังหวัดไม่ทอดทิ้งชาวประมงที่ได้รับผลกระทบ โดยได้จัดเตรียมมาตรการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง อาทิ การจัดสรรที่ดินทำกิน สนับสนุนอาชีพทางเลือก เช่น การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและปลากะพง การให้ปัจจัยการผลิต ตลอดจนการส่งเสริมช่องทางการตลาด เพื่อให้ชาวประมงสามารถปรับตัวและสร้างรายได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน พร้อมยืนยันว่า การจัดระเบียบครั้งนี้จะเกิดประโยชน์ร่วมกันต่อทั้งประชาชน ผู้ประกอบการ และทรัพยากรธรรมชาติของจังหวัดในระยะยาว