ศูนย์ข่าวภูเก็ต – แสนสิริ สานต่อ “Inclusive Growth” โตคู่ภูเก็ตยั่งยืน เผยโฉม 2 คอนโดฯใหม่พร้อมอยู่ใจกลางภูเก็ต เดอะ เบส ไรส์ - เดอะ เบส บูกิต มัน มูลค่ากว่า 2,800 ล้าน มั่นใจตลาดโตต่อเนื่อง วางแผนลงทุนต่ออีก 25 โครงการภายใน 5 ปี
นายภูมิชาย มัธยมภพภิญโญ กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจพัฒนาโครงการภาคใต้ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นางสาวสมสกุล หลิมศุทธพรรณ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพ เพอร์ตี้ จำกัด ร่วมแถลงข่าวเปิดโฉม 2 คอนโดมิเนียนที่สร้างเสร็จและพร้อมอยู่ในตัวเมืองเก็ต โครงการ “เดอะ เบส บูกิต” และ “เดอะ เบส ไรส์” ณ ล็อบบี้ เดอะ เบส บูกิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต
นายภูมิชาย มัธยมภพภิญโญ กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจพัฒนาโครงการภาคใต้ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แสนสิริ เข้ามาลงทุนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเมื่อปี 2011 เป็นเวลา กว่า 20 ปี แล้ว ได้ลงทุนไปแล้งถึง 30 โครงการ มูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท ทั้งโครงการคอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร พูลวิลล่า และอื่นๆ ทั้งนี้เพราะแสนสิริเชื่อมั่นในศักยภาพภูเก็ตที่เป็นเมือง World Class Destination โดยได้วางเป้าเติบโตไปด้วยกัน ด้วยแนวคิด “Inclusive Growth” 3 แนวทาง ได้แก่ มอบที่อยู่อาศัยคุณภาพพร้อมการบริการที่สร้างมูลค่าเพิ่มระยะยาวด้านการลงทุนในอนาคต พร้อมผลักดัน
ไลฟ์สไตล์ในภูเก็ตด้วยการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่หลากหลายผ่านการร่วมมือกับแบรนด์ไทยและระดับนานาชาติ และพัฒนาสังคมที่เติบโตไปพร้อมเมืองภูเก็ตอย่างยั่งยืน ทั้งคุณภาพการอยู่อาศัยสี
โดยล่าสุดได้เปิดโฉมคอนโดมิเนียม 2 โครงการที่สร้างแล้วเสร็จและพร้อมเข้าอยู่ ใจกลางเมืองภูเก็ต ประกอบด้วย โครงการ “เดอะ เบส บูกิต” มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท ในโซนเมืองที่เชื่อมต่อทุกย่านในเมืองภูเก็ต ตั้งอยู่ในทำเลสะดวกสบายใจกลางเมือง ตรงข้ามแม็คโคร ภูเก็ต ใกล้เซ็นทรัล ภูเก็ต ใกล้ภูเก็ตทาวน์ และอื่นๆ โครงการนี้ออกแบบโดยใช้ความเป็นภูเก็ตผสมผสานเข้ากับความร่วมสมัย และไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ภูเก็ต ออกมาเป็นดีไซน์อาคารที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร เช่น “หง่อคาขี่” ทางเดินใต้อาคารที่ดึง ”เปอรานากัน” มาใช้ มีเส้นโค้งช่วยให้ตัวอาคารมีมิติ โทนสีโครงการสีเขียวและแดง เป็นสีหลักในการออกแบบ นอกจากนี้พื้นที่ส่วนกลางยังมีขนาดใหญ่กว่า 2 ไร่ จัดเต็มถึง 9 โซน และยังมี EV Charger Station ตอบรับกลุ่มคนใช้รถยนต์ไฟฟ้า
คอนโด Low Rise จำนวน 604 ยูนิต ความสูง 8 ชั้น จำนวน 3 อาคาร บนที่ดินขนาดประมาณ 3 ไร่ ห้องพักมีให้เลือกถึง
4 รูปแบบ Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเข้าอยู่ ขนาดตั้งแต่ 26 – 55 ตารางเมตร ไฮไลท์ด้วย ห้อง Rare Item ที่มีความโค้งและห้องระเบียงโค้ง ที่มีเพียงไม่กี่ยูนิต พร้อมที่จอดรถและมีที่จอดรถมอเตอร์ไซด์ เริ่ม 2.59 ล้านบาท
โครงการ “เดอะ เบส ไรส์” คอนโดฯ ใหม่สไตล์รีสอร์ท พร้อมเข้าอยู่ มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท ความสูง 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 326 ยูนิต บนที่ดินขนาด 3 ไร่ ทำเลส่วนตัว ใกล้เซ็นทรัล ฟลอเรสต้า ภูเก็ตเพียง 2 นาที พื้นที่ส่วนกลางครบ พร้อมดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ จากชื่อโครงการที่มาจากคำว่า “Rise” หมายถึง พระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามโดดเด่นที่ภูเก็ต พร้อมสระว่ายน้ำ Sunrise Pool ลวดลายพระอาทิตย์ใจกลางโครงการ บรรยากาศผ่อนคลายด้วยดีไซน์การออกแบบ Luxury Tropical ที่ไม่เหมือนใครในภูเก็ต ทั้ง Blissful Lobby, Coral Gym ฟิตเนสที่เต็มไปด้วยสีสันของปะการัง ที่ทำให้เหมือนได้ออกกำลังกายอยู่ใต้ท้องทะเลที่สวยงาม , Co-working & Chilling Space พื้นที่ทำงานบรรยากาศทรอปิคอล ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์, Sansiri Backyard พื้นที่สีเขียวที่ร่มรื่น , Breezy Terrace
นายภูมิชาย กล่าวต่อว่า โครงการของแสนสิริที่เปิดตัวและทำตลาดอยู่ในภูเก็ตในขณะนี้ ทั้งในพื้นที่เชิงทะเล บางเทา และเมืองภูเก็ต ได้รับการตอบรับที่ดี ยอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โครงการที่เปิดบางโครงการปิดการขายไปแล้ว บางโครงการยอดขายอยู่ที่ 90% และในส่วนของ 2 โครงการในเมืองภูเก็ต ทั้ง เดอะ เบส ไรส์ และ เดอะ เบส บูกิต ยอดขายไปแล้ว 70-80% ตลาดอสังหาที่ชะลอตัวบ้างในช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อโครงการแสนสิริแต่อย่างใด
ส่วนแนวโน้มตลาดอสังหาฯภูเก็ตนั้น นายภูมิชาย ระบุว่า ตลาดยังไปต่อได้ หากตัวสินค้า โลเคชั่น ดีไซด์ ตรงกับกลุ่มลูกค้าที่วางไว้ รวมไปถึงราคาที่สมเหตุสมผล โครงการที่เปิดขายก็ยังมีความต้องการ และเชื่อมั่นว่าตลาดอสังหาฯภูเก็ตยังไปได้อีกไกล จากที่ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก มีกลุ่มลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งคนไทยและต่างชาติ รวมไปถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ก็เกิดขึ้นตลอด แสนสิริจึงมั่นใจในศักยภาพของภูเก็ต ได้มีการวางแผนการลงทุนระยะเวลา 5 ปี นับจากปี 2568 นี้ จะมีการลงทุนเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 25 โครงการ ในทุกเซกเม้นต์ ทั้งคอนโดฯ บ้านจัดสรร ในทำเลศักยภาพของภูเก็ต