วันนี้ (5 ส.ค.68) จังหวัดนราธิวาสได้ขับเคลื่อนมาตรการตามนโยบายรัฐบาล “No Drugs No Dealers” อย่างจริงจัง โดยบูรณาการการทำงานทุกภาคส่วน ทั้งการป้องกัน ปราบปราม และบำบัดฟื้นฟูผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เดินหน้าดำเนินมาตรการตามนโยบายรัฐบาลป้องกันและปราบปรามยาเสพติดควบคู่ไปกับการบำบัดฟื้นฟูผู้เสพ ให้สามารถกลับคืนเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม โดยบูรณาการทุกภาคส่วนร่วมปฏิบัติอย่างเข้มข้น
นายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า นโยบายด้านยาเสพติดถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย โดยจังหวัดนราธิวาสได้กำชับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองทุกระดับ ทั้งนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และสมาชิก อส. ให้สอดส่องพฤติกรรม ตรวจหาข่าว และสุ่มตรวจสารเสพติดในกำลังพลอย่างต่อเนื่อง
“ผู้เสพถือเป็นผู้ป่วย หากมีความประสงค์เข้ารับการบำบัด รัฐพร้อมให้โอกาสเพื่อฟื้นฟูร่างกายและจิตใจให้กลับตัวกลับใจได้ แต่หากเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด จะถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด” รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสกล่าว
มาตรการตรวจปัสสาวะในกำลังพลฝ่ายปกครองได้ดำเนินการอย่างจริงจัง และที่ผ่านมาได้พบเจ้าหน้าที่บางรายที่หลงผิด โดยจังหวัดให้โอกาสเข้ารับการบำบัด หากไม่สามารถแก้ไขได้ก็ต้องออกจากหน้าที่
ในด้านการบำบัดฟื้นฟู จังหวัดนราธิวาสได้จัดตั้ง ศูนย์ฟื้นฟูสภาพสังคม “นราพาราดอนโมเดล” ที่กองร้อย อส.จังหวัดนราธิวาส เพื่อรองรับผู้ที่ผ่านการคัดกรองจากโรงพยาบาลเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และอาชีพ ปัจจุบันมีผู้เข้ารับการฟื้นฟูกว่า 100 คน และยังรองรับได้ต่อเนื่อง โดยศูนย์แห่งนี้ถือเป็นหนึ่งใน 10 จังหวัดนำร่องของประเทศที่ได้รับกองทุนสนับสนุนจาก ปปส.
นอกจากนี้ จังหวัดยังมุ่งเน้นการสร้างชุมชนเข้มแข็งผ่านมาตรการป้องกัน เช่น การส่งเสริมกองทุนชุมชน โครงการเยาวชนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และการส่งเสริมกีฬา โดยเฉพาะโครงการ ทูบีนัมเบอร์วัน ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเข้าถึงยาเสพติด
รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสย้ำว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติดต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งการป้องกัน ปราบปราม และบำบัดฟื้นฟู เพื่อให้จังหวัดนราธิวาสก้าวสู่เป้าหมายปลอดยาเสพติดอย่างยั่งยืนภายใต้นโยบาย “No Drugs No Dealers”