xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดอสังหาฯภูเก็ต แค่ชะลอตัว ยังไม่โอเวอร์ซัพพลาย ยังไปต่อได้ แม้พูลวิลล่าหลัง30 ล้าน ยังรอขายกว่า 2 พันยูนิต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต – อุปนายกสมาคมอสังหาฯภูเก็ต เผย ตลาดอสังหาฯภูเก็ตแค่ชะลอตัวเท่านั้น ยังไม่ถึงขั้นโอเวอร์ซัพพลาย แม้พูลวิลล่าหลังละ 30 ล้าน ขายไม่ออก รอขายอยู่กว่า 2 พันยูนิต มั่นใจตลาดยังไปต่อได้ เชื่อช่วงปลายปีตลาดกระเตื้องตามภาวะการท่องเที่ยว


นายพัทธนันท์ พิสุทธิ์วิมล อุปนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต
นายพัทธนันท์ พิสุทธิ์วิมล อุปนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต เปิดเผยถึงภาพรวมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดภูเก็ตในปีนี้ ว่า ภาพรวมอสังหาฯภูเก็ตในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ช่วงไตรมาสแรกยังมีความต้องการของตลาดอยู่ แต่ตลาดเริ่มชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคม ต้นๆเดือนเมษายน เป็นต้นมา ธุรกิจอสังหาฯในภูเก็ตชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด จากหลายๆปัจจัยที่ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือในการลงทุน เช่น นโยบายภาษีของทรัมป์ ภาวะเงินเฟ้อ สงคราม ทำให้บรรยากาศการลงทุนอสังหาฯในช่วงไตรมาสสองที่ผ่านมาลดลงอย่างเห็นได้ชัด

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อมองในภาพรวมทั้งประเทศถือว่าแย่มาก ตลาดมีการชะลอตัวทุกพื้นที่ แต่ภูเก็ตก็ถือว่ายังโชคดีมากจากที่เราเป็นเมืองท่องเที่ยว ถึงแม้การท่องเที่ยวจะชะลอตัวลงตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ต่อเนื่องมาเป็นต้นมา หลายๆโรงแรมมีเสียงสะท้อนออกมาว่านักท่องเที่ยวหายไปเป็นจำนวนมาก แต่ก็เป็นเพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น เพราะเมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงไตรมาส 3 สถานการณ์ท่องเที่ยวก็เริ่มที่จะดีขึ้นเรื่อยๆ อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมเริ่มดีขึ้น ประกอบกับภาพรวมอสังหาฯทั้งประเทศชะลอตัวอย่างมาก ทำให้ผู้ประกอบการจากส่วนกลางและนักลงทุนท้องถิ่นในต่างจังหวัดที่ไม่ใช่ภูเก็ต ทั้งจาก สงขลา สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ นครราชสีมา มองเห็นโอกาสการลงทุนที่ภูเก็ตซึ่งคิดว่าน่าจะมีเพียงที่เดียวที่น่าลงทุนในขณะนี้ จึงมุ่งหน้ามาลงทุนเปิดโครงการอสังหาฯใหม่ๆในภูเก็ต จึงทำให้ซัพพลายมีสูง โดยเฉพาะซัพพลายที่เป็นวิลล่า พลูวิลล่า ในย่านบางโจ เชิงทะเล ป่าสัก มีเป็นจำนวนมาก ในราคาขายที่สูงกว่าหลังละ 30 ล้านบาท จากราคาที่ดินที่ขยับเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัวในช่วงที่ผ่านมา จากที่ขายกันราคาไร่ละ จากที่ขายอยู่ไร่ละ 6-7 ล้านบาท ขยับเป็นไร่ละ 10-20 กว่าล้าน และ 30 ล้านบาทในบางพื้นที่ รวมทั้งราคาวัสดุก่อสร้างก็เพิ่มขึ้นด้วย ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับราคาเพิ่มขึ้นตามต้นทุน เมื่อมาประจวบเหมาะกับเศรษฐกิจโลกไม่ดี ทำให้ตลาดโดยรวมอสังหาฯภูเก็ตชะลอตัวตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นมา


“แม้ว่าตลาดจะชะลอตัวบ้างในขณะนี้ โดยภาพรวมก็ยังไม่ถึงขั้นฟองสบู่แตก หรือ โอเวอร์ซัพพลาย ตามที่หลายๆ คนกังวล ตลาดยังพอที่จะไปต่อไป เพียงแต่ในการลงทุนนั้น นักลงทุนต้องมีความระมัดระวังให้มากขึ้น โดยเฉพาะโครงการที่สร้างขายชาวต่างชาติ จะต้องมีการปรับกลยุทธ์ วางแผนทางการเงิน การตลาดให้มากขึ้น เพราะขณะนี้ไม่ใช่ว่าสร้างอะไรขึ้นมาแล้วขายได้เหมือนตอนหลังโควิดใหม่ๆ ตอนนี้เข้าสู่ภาวะของการแข่งขันอย่างสมบูรณ์” อุปนายกสมาคมอสังหาฯภูเก็ต กล่าวและว่า

อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันของภูเก็ต ตลาดอสังหาฯภูเก็ตน่าที่จะดีขึ้น ตามภาวะการท่องเที่ยวที่เติบโตดีในช่วงปลายปีซึ่งเป็นเรื่องปกติของภูเก็ต แต่ถ้าจะได้ดียิ่งขึ้นจะต้องวิเคราะห์จากสถานการณ์ในต่างประเทศโดยเฉพาะในฝั่งยุโรป รัสเซีย จีน อเมริกา ว่าจะมีการขึ้นภาษีหรือกีดกันทางการค้าเพิ่มขึ้นหรือไม่ สงครามเป็นอย่างไร เพราะสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อดีมานด์ทั้งด้านบวกและด้านลบ ถ้าหากสงครามปะทุขึ้นอีกก็จะทำให้คนที่มีกำลังซื้อย้ายมาอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย ด้วยการมาซื้อบ้านหลังที่ 2 ในภูเก็ต เพราะภูเก็ตยังเป็นจุดหมายปลายทางของคนต่างชาติที่ต้องการบ้านหลังที่ 2 แต่กลุ่มที่ไม่ย้ายมาแต่ต้องการลงทุนก็ยังไม่ลงทุนเหมือนกัน ดังนั้นผู้ประกอบการจะต้องวิเคราะห์และจับตลาดให้ชัดว่าเราต้องการตลาดกลุ่มไหน เพื่อที่จะขึ้นโครงการให้ตรงกับความต้องการของตลาดนั้น ทำให้โครงการเดินต่อไปได้


ส่วนจำนวนวิลล่า พูลวิลล่า และคอนโดมิเนียม ที่รอขายอยู่ในภูเก็ตขณะนี้ อุปนายกสมาคมอสังหาฯภูเก็ต ระบุว่า ยังมีพูลวิลล่าและคอนโดมิเนียม ที่สร้างเสร็จและที่ได้เปิดขายไปแล้ว รอขายอยู่จำนวนมากจากที่ตลาดชะลอตัว อย่างกรณีของพูลวิลล่าที่เปิดตัวและสร้างขายในปีที่ผ่านมาประมาณ 4,000 กว่ายูนิต คาดว่าน่าทีจะขายไปแล้วประมาณ 50% ทำให้ขณะนี้น่าที่จะมีพูลวิลล่ารอขายอยู่ไม่น่าจะต่ำกว่า 2,000 ยูนิต เช่น เดียวกันคอนโดมิเนียมลงเปิดขายประมาณ 3-4 หมื่นยูนิต ยังเหลือขายอยู่จำนวนหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม ความต้องการของตลาดยังมีอยู่อยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะตลาดต่างชาติ ที่ภูเก็ตมีหลายตลาดมาก ทั้งยุโรป รัสเซีย จีน อเมริกา เป็นต้น ซึ่งต้องดูสินค้าและราคาตอบโจทก์หรือไม่

“ภูเก็ตยังไม่โอเวอร์ซัพพลาย ความต้องการของตลาดยังมีอยู่เรื่อยๆ เพียงแต่ขายได้ช้าขึ้นเท่านั้นเอง และมั่นใจว่าการลงทุนอสังหาฯโครงการใหม่ๆจะยังคงเกิดขึ้นในภูเก็ตแม้ว่าดีมานด์ในตลาดจะมีอยู่จำนวนมากก็ตาม และการลงทุนใหม่สำหรับต่างชาติจะต้องเป็นโครงการระดับลักซูรี่มากขึ้นจากราคาที่ดินที่ขยับตัวเพิ่มขึ้นตลอดเวลา แต่ตลาดลูกค้าคนไทยก็ยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยต่อเนื่องเช่นกัน ในราคาตั้งแต่ 5-10 ล้านบาท รวมไปถึงบ้านมือสองก็เป็นที่ต้องการของตลาด”




กำลังโหลดความคิดเห็น