ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สาวเขมร ใจบาง ทนฟังไม่ได้ ชาวบ้านด่ากัมพูชา ปมเปิดศึกกับไทย กลับไปนั่งร้องให้ นายจ้างพามาถามชาวบ้าน ห้ามพูดถึงเขมรให้นางได้ยิน ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ นัดรวมตัว สุดท้ายจบไหว้ขอโทษ
หวิดเป็นเรื่อง จากกรณี ชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 5 ตำบลไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จำนวนหนึ่ง มานั่งทานข้าวต้มที่ร้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ ได้มีการพูดคุยกันถึงปัญหาสถานการณ์บ้านเมือง โดยเฉพาะประเด็นทหารกัมพูชายิงเข้ามาในฝั่งชาวแดนไทย จนทำให้เกิดการสู้รบกันจนถึงวันนี้ โดยมีการด่าทอทางกัมพูชา ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น และ ขณะที่กำลังพูดกันอย่างออกรสออกชาติ ได้มีหญิงสาวชาวต่างด้าวคนหนึ่งมาซื้อข้อง โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าหญิงรายดังกล่าวเป็นชาวกัมพูชา
ซึ่งหลังจากซื้อของเสร็จหญิงสาวคนดังกล่าวก็ได้เดินทางกลับไป หลังจากนั้นไม่นาน หยิงสาวรายดังกล่าวก็ได้กลับมาจุด ที่ร้านข้าวต้มพร้อมกับนายจ้าง พร้อมกับมีการสอบถามคนในวงข้าวต้ม ว่า มีใครไปว่า หญิงชาวเขมร ซึ่งเป็นลูกน้องของตน จนทำให้ลูกน้องกลับไปร้องให้ พร้อมกับบอกให้ชาวบ้านไม่ให้พูดถึง และ หยุดด่าเขมร เวลาผู้หญิงเขมร ออกมาซื้อของ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา
ซึ่งการกระทำดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์เป็นอย่างมาก และมีการพูดต่อกันไป จนทำให้ชาวบ้านรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้นายจ้างคนไทย ที่ออกมาบอกไม่ให้ชาวบ้านพูดเรื่องเขมร มาพูดคุย เพราะชาวบ้านมองว่า นายจ้างที่เป็นคนไทยเข้าข้างชาวกัมพูชา โดยให้เจ้าหน้าที่ และ ผู้ใหญ่บ้านเป็นคนกลาง
อย่างไรก็ตาม ในการเจรจรา ซึ่งมี นาย ภานุพันธ์ จินดาพล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เข้าร่วม พร้อมด้วยชาวบ้านในพื้นที่ นายจ้างของสาวเขมร และสาว เขมร คนต้นเรื่อง ซึ่งได้มีการสอบถามถึงที่มาที่ไปของเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น ซึ่งชาวบ้านมีการระบุว่า ในช่วงที่เกิดเหตุ ไม่มีใครด่าหญิงชาวเขมรที่มาซื้อของแต่อย่างใด เพราะไม่มีใครรู้ว่าหญิงคนดังกล่าวเป็นชาวเขมร แต่ขณะนั้นมีการพูดคุยกันเรื่องของปัญหาการสู้รบระหว่างไทยและเขมร และไม่มีการด่าคนที่มาซื้อของแต่อย่างใด
ขณะที่นายจ้างของสาวเขมร เมื่อลูกจ้างกลับไปจากซื้อของ ก็นั่งร้องให้ อยู่ที่บ้าน ก็ได้มีการสอบถาม ว่าร้องให้ทำไม ซึ่งสาวคนดังกล่าวก็เล่าว่า ชาวบ้านด่าเขมร ทำให้เกิดความบันทอนจิตใจ และเกิดความน้อยใจ จึงได้พาลูกจ้างออกมาพบกับชาวบ้าน เพื่อถามว่าได้พูดอะไรกับลูกน้องเขาไหม รวมทั้งบอกกับชาวบ้านว่า ต่อไปถ้าสาวเขมรรายนี้มาซื้อของ อย่าพูดอะไรเกี่ยวกับกัมพูชา
แต่อย่างไรก็ตามจากการพูดคุยร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย สามารถตกลงกันได้ดี มีการปรับความเข้าใจกัน ซึ่งเป็นการเข้าใจผิดกัน และก็ได้ขอโทษ ขออภัยกันทั้งสองฝ่าย และจบลงด้วยดีเหตุการณ์ไม่ได้บานปลายอะไร โดยในส่วนของสาวเขมรก็ได้ขอโทษคนไทยที่เข้าใจผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น