xs
xsm
sm
md
lg

นายอำเภอท่าแซะ แจ้งความกำนัน - ผู้ใหญ่บ้าน ในคลิปเสียง ผลประโยชน์ชายแดน ระบุ จ่ายนายเดือนละ 1 หมื่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ชุมพร - นายอำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร แจ้งความ "กำนันคนดัง" กับ "ผู้ใหญ่บ้านหญิง" ผู้ใต้บังคับบัญชา หลังมีการคลิปลับ สนทนาโต้เถียงกันเรื่อง ผลประโยชน์ชายแดนไทย-เมียนมา กล่าวหารับส่วยรถแบ็กโฮออกนอกราชอาณาจักร ระบุ จ่ายนายเดือนละ 1 หมื่น

จากกรณี เจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนสำนักสอบสวน 4 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ร่วมกับ กอ.รมน.ภาค 4 ลงพื้นที่สอบสวนทางในลับนานกว่า 3 เดือน บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ด้านตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร พบกลุ่มบุคคลมีทั้งผู้มีอิทธิพล เจ้าหน้าที่รัฐ ร่วมกันกระความผิดทั้งในราชอาณาจักร และ นอกราชอาณาจักรไทย มีทั้งลักลอบขนแรงงานมนุษย์กลุ่มชาติพันธุ์ พืชผลทางการเกษตร ปาล์ม ยางพารา โดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร บุกรุกตัดไม้แผ้วถางทำลายป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และนำรถแบ็คโฮข้ามแดนจากฝั่งไทย ไปขุดปรับสภาพผืนที่บริเวณชายแดนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ร่วมกับกองกำลังชนกลุ่มน้อย จัดสรรแบ่งขายให้กับคนไทยได้เข้าไปอยู่อาศัยทำการเกษตร จำนวนนับพันไร่ และเป็นที่ซ่องสุมของกลุ่มผู้กระทำผิดกฎหมาย ที่อยู่ในเขตอิทธิพลของกองกำลังนกลุ่มน้อยดังกล่าว

โดยรายงานผลการสืบสวนในทางลับดังกล่าว ร.ต.ต.พงศกร มีพันธุ์ ผอ.ส่วนสอบสวน 4 สำนักสอบสวน 4 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้นำพยานและหลักฐาน ทั้งพยานเอกสาร พยานวัตถุ พยานบุคคล บัญชีเส้นทางการเงิน คลิปเสียงสนทนา ภาพถ่าย คลิปภาพวิดีโอเคลื่อนไหว และ อื่นๆอีกหลายรายการ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.)กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายเป็นที่เรียบแล้วตามข่าวที่ได้นำเสนอมาเป็นระยะๆนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีดังกล่าว ปรากฎว่า หลักฐานคลิปเสียง ระหว่าง กันนันคนดัง กับผู้ใหญ่บ้านหญิงในพื้นที่ ได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องรถแบ็กโฮ จำนวน 3 คัน ที่เข้าไปขุดสระน้ำ ขุดปรับสภาพพื้นที่ในป่าสงวนแห่งชาติ และลักลอบนำข้ามชายแดนออกไปนอกราชอาณาจักรไทย เพื่อตัดไม้ ขุด ไถ ปรับ สภาพพื้นที่ป่าชายแดนที่อยู่ในเขตอิทธิพลของกองกำลังชนกลุ่มน้อย จำนวนนับพันไร่ และการเคลียร์จ่ายส่วยให้หน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่

และในคลิปเสียงกำนันคนดังกล่าว ได้พูดถึงเรื่องรถแบ็กโฮ ต้องดูแลนายจ่ายให้นายอำเภอเดือนละ 1 หมื่นบาท และ ท้ายคลิปเสียงกำนันคนดังกล่าว พูดด้วยความไม่พอใจผู้ใหญ่บ้านหญิงที่กำลังสนทนาอยู่ ที่ไม่ทำตามที่กำนันสั่ง พร้อมกับด่าให้อวัยวะเพศชายกับผู้ใหญ่บ้านหญิงนั้นด้วย

โดยคลิปเสียงดังกล่าว ได้หลุดออกมาทางสื่อโซเชียล กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่ว และมีการส่งต่อๆกันออกไปในวงกว้าง อย่างแพร่หลาย

อย่างไรก็ตามหลังจากมีการปล่อยคลิปเสียงดังกล่าวออกไป นายพิสิษฐ์ ฤทธิพิชัยสงคราม นายอำเภอท่าแชะ ได้มอบหมายให้ นายสุจินต์ สว่างศรี อายุ 42 ปี เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.หญิง นันทิยา รักดี สว.(สอบสวน) สภ.ท่าแซะ เมื่อวันที่ 8 พ.ค.68 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ค.68 เวลาประมาณ 10.00 น. นายพิสิษฐ์ ได้ตรจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2568 ได้ปรากฎข่าวทางสื่อออนไลน์ ต่าง ว่าได้มีการเผยแพร่คลิปเสียงการสนทนาของบุคคล ฝ่ายหนึ่งแทนตัวเองว่ากำนัน ส่วนคู่สนทนาถูกระบุว่าเป็นผู้ใหญ่บ้าน 

สาระของคลิปเสียงดังกล่าวมีการโต้เถียงกันเกี่ยวกับการนำรถแบ็กโฮเข้าไปปรับพื้นที่ที่เกิดเหตุ โดยผู้กล่าวอ้างว่าเป็นกำนัน ระบุว่า ตนเองเป็นผู้จัดการเคลียร์เส้นทางการนำรถแบ็กโฮข้ามไปประเทศเพื่อนบ้าน และมีการจ่ายเงินให้กับนายอำเภอเดือนละ 10,000 บาท

จากกรณีดังกล่าวนายพิสิษฐ์เชื่อว่าบุคลทั้งสองในคลิปดังกล่าวนั้น เป็นการสนทนากันระหว่าง นายสุนทร กำนันตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ กับ นางชฎาวัลย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 20 (บ้านพันวาล)ตำบลรับร่อ เนื่องจากทั้งสองคนดังกล่าวเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายพิสิษฐ์ ทำให้เมื่อนายพิสิษฐ์ฟังเสียงจากคลิปดังกล่าว จึงจำได้ทันทีว่าเป็นเสียงของนายสุนทรและนางชฎาวัลย์ โดยจากบทสนทนาดังกล่าว ทำให้นายพิสิษฐ์ ซึ่งเป็นนายอำเภอท่าแซะ เจ้าของพื้นที่ที่เกิดเหตุ ได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง

จึงมอบอำนาจให้ผู้แจ้งมาแจ้งความร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับนายสุนทร และนางชฎาวัลย์ หรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ในความผิดที่เกี่ยวข้อง ตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด โดย ขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.ท่าแซะ ได้รวบรวมพยานหลักฐาน สรุปสำนวนส่งอัยการหวัดชุมพรแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น