xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้าน-ทหารผ่านศึก รวมตัวบุกยื่นหนังสือให้ย้ายนายอำเภอท่าแซะ ปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นธรรม ผลประโยชน์ทับซ้อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ชุมพร - ชาวบ้าน ทหารผ่านศึก รวมตัวยื่นหนังสือให้ย้ายนายอำเภอท่าแซะ ปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นธรรม อ้างผลประโยชน์ทับซ้อน ผืนป่าสวนปาล์มหมดสัมปทานกว่า 2.3 หมื่นไร่ นาน 10 ปี แต่ยังมีนายทุน แรงงานต่างด้าวแฝงเก็บเกี่ยวผลผลิต


เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ ( 21 ก.ค.68 ) ที่หน้าศาลากลางจังหวัดชุมพร นายประคอง จิตประสงค์ "ผู้ใหญ่หยีต" และ นายคนึง เมืองทิพย์ ประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย กลุ่มทหารผ่านศึกและชาวบ้านจำนวนมาก มารวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ย้ายนายอำเภอท่าแซะ ออกจากพื้นที่ เนื่องจากเลือกปฏิบัติ ไม่เป็นธรรมต่อชาวบ้าน

โดยในหนังสื่อมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติหน้าที่ และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ดำเนินการจับกุมแรงงานต่างด้าวและนายทุนที่ยังครอบครองเก็บผลผลิตอยู่ในสวนปาล์มหมดสัมปทานเกือบ 3 หมื่นไร่ ในป่าสงวนรับร่อ - สลุย อำเภอท่าแซะ และปล่อยให้นายทุนสร้างสุสานบรรพบุรุษขนาดใหญ่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่ได้รับสัมปทานเนื้อที่กว่า 5 ไร่ ซึ่งถือว่าผิดกฎหมายแต่ไม่ดำเนินการใด และในพื้นที่ดังกล่าวหลังหมดสัมปทานกลับมีข้าราชการระดับสูงเข้าไปยึดครองพื้นที่นับร้อยไร่เป็นของตนเอง โดยให้แรงงานต่างด้าวเข้าไปดูแล

แกนนำชาวบ้านได้กล่าวก่อนยื่นหนังสือว่า ช่วง 2 เดือนที่ที่ผ่านมาบรรดาชาวบ้านและกลุ่มทหารผ่านศึก รวมตัวกันเรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตามกฎหมายกับสวนปาล์มกว่า 23,000 ไร่ ในป่าสงวนแห่งชาติสลุย-รับร่อ ซึ่งหมดสัมปทานนาน 10 ปีแล้ว แต่หน่วยงานรัฐกลับเกี่ยร์ว่างไม่ดำเนินการเข้าไปบริหารจัดการในที่ดินหมดสัมปทาน มาใช้ประโยชน์สาธารณะ และจัดสรรให้กับประชาชนได้ทำกิน แต่กลับปล่อยให้กลุ่มนายทุน เจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมือง รวมหัวกันเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ออกมาขายปีละนับพันล้านบาท


ล่าสุดขณะนี้ ทางบริษัผู้รับสัมปทานทนแรงกดดันของพวกเราไม่ไหว จึงมีหนังสื่อถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ขอออกจากพื้นที่และจะทำการเคลื่อนเครื่องจักร สิ่งของต่างๆ แต่ก็ยังอยู่เหมือนเดิม ลักษณะเหมือนจะเป็นการประวิงถ่วงเวลาเท่านั้น แต่เมื่อชาวบ้านกลุ่มทหารผ่านศึกเข้าไปตรวจสอบเฝ้าระวังไม่ให้กลุ่มแก๊งสวาปาล์มดังกล่าว เข้าไปเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ แต่ถูกนายอำเภอสนธิกำลังเข้าไปจับกุม จึงถือว่าไม่ไรับความเป็นธรรมและเลือกปฏิบัติ

"นอกจากนั้นในพื้นที่ป่าสงวนหมดสัมปทานดังกล่าว ยังปล่อยให้มีการสร้างสุสานขนาดใหญ่ฝังร่างบรรพบุรุษของนายทุน รวมพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ ซึ่งถือเจตนาครอบครองที่ป่าสงวนเป็นของตนเอง แต่ทางอำเภอไม่ดำเนินการใดๆ" แกนนำกล่าว

ต่อมาเวลา12.30 น.แกนนำ ชาวบ้าน กลุ่มทหารผ่านศึก ได้ร่วมกันยื่นหนังสือข้อเรียกร้องดังกล่าว โดยมีป้องกันจังหวัดชุมพร เป็นผู้ลงมารับหนังสือแทนผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ที่ติดราชการ


จากนั้นแกนนำได้กล่าวกับกลุ่มชาวบ้านและทหารผ่านศึกว่า วันนี้พวกเราไม่ได้รับคำตอบใดๆว่าจะดำเนินกับนายอำเภอตามข้อเรียกร้องหรือไม่อย่างไร จึงขอให้ชาวบ้านทั้งหมดและกลุ่มทหารผ่านศึก ได้กลับไปรวมตัวและนอนค้างคืนที่หน้าที่ว่าการอำเภอท่าแซะ ต่อ เพื่อรอคำตอบจากผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร และเพื่อยกระดับการเคลื่อนไหวต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น