นครศรีธรรมราช – เทศบาลเมืองทุ่งสงยังไร้นายกเทศมนตรีแบบยาว ๆ หลังการเลือกตั้งจบ วิบากกรรมเก่าคดีค้างในศาลทุจริตทำ “ทรงชัย วงศ์วัชระดำรง” ยังนั่งเก้าอี้ไม่ได้ ล่าสุดถูก ป.ป.ช.ชี้มูลซ้ำอีกคดีพ่วงข้าราชการส่งฟ้องศาลทุจริตแล้ว
วันนี้ (20 ก.ค.) ที่เทศบาลเมืองทุ่งสง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช แม้การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลเมืองทุ่งสง จะเสร็จสิ้นไปเกือบ 2 เดือนแล้วนั้น โดยมีผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งคือ นายทรงชัย วงศ์วัชระดำรง ได้รับเลือกตั้งรักษาเก้าอี้ได้อีก 1 สมัย แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถเข้าบริหารได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างต้องคดีในศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 8 ทำให้ไม่มีคณะผู้บริหารทุกตำแหน่ง ขณะที่ปลัดเทศบาลเมืองทุ่งสง ก็ต้องรักษาราชการนายกเทศมนตรีมาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด นายทรงชัย วงศ์วัชระดำรง และพวก ต้องถูกดำเนินคดีซ้ำอีก 1 คดี กรณีอนุญาตให้เอกชนดำเนินการก่อสร้างเขื่อน (ชนิดดาดหินใหญ่ยาแนว) รุกล้ำลำเหมืองสาธารณะโดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยคณะกรรมการ ปปช.ได้มีมติชี้มูลความผิดนายกเทศมนตรีเมืองทุ่งสง กับพวก ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 โดยณะนี้ได้มีการนำสำนวนคดีส่งสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาส่งฟ้องในเขตอำนาจศาลแล้ว
คดีนี้เป็นคดี (ป.ป.ช.) หมายเลขดำที่ 27-1-567/2564 หมายเลขแดงที่ 0243-1-50/2568 สืบเนื่องจาก นายทรงชัย วงศ์วัชระดำรง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองทุ่งสง กับพวก อนุญาตให้ก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กป้องกันตลิ่งลำน้ำเหมืองสาธารณะประโยชน์ และไม่ระงับหรือมีคำสั่งให้รื้อถอนการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กป้องกันตลิ่ง (ชนิดดาดหินใหญ่ยาแนว) ซึ่งรุกล้ำเหมืองสาธารณประโยชน์เป็นเหตุให้ผู้ที่พักอาศัยในบริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหายและก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ
ที่ประชุมพิจารณามีมติเป็นเอกฉันท์ 6 เสียง โดยมีการชี้มูล นายทรงชัย วงษ์วัชรดำรง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และตาม พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต 2542 แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตาม พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต 2561 มาตรา 172) และตาม พรบ.เทศบาล พ.ศ.2496 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 73
ในคดีเดียวกันนี้ยังมี นายอนุชา ธนาวุฒิ เป็นผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ถูกชี้มูลความผิดทางอาญา ตามมาตรา 157 และตาม พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต 2542 แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตาม พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต 2561 มาตรา 172) และยังระบุความผิดมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง กรณีทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประกาศประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเงื่อนไขเกี่ยวกับวินัยและการรักษาวินัยและการดำเนินการทางวินัย ประกาศลงวันที่ 30 ธันวาคม 2558 ข้อ 7 วรรคสาม
โดยสำนวนคดีได้ถูกส่งไปยังสำนักงายอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลที่มีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับ นายทรงชัย วงษ์วัชรดำรง และนายอนุชา ธนาวุฒิ ขณะเดียวกันได้ส่งสำนวนไปยังผู้บังคับบัญชาของทั้งคู่เพื่อให้ดำเนินการทางวินัยแล้วเช่นเดียวกัน ทั้งนี้การพิจารณาคดีจะถือเป็นที่สุดเมื่อมีการพิจารณาคดีในชั้นศาลแล้วเสร็จ โดยผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 รายสามารถต่อสู้คดีในชั้นศาลได้ตามสิทธิ