ปัตตานี - อำเภอปะนาเระเห็นผลทันตา ริมถนนและในชุมชนไม่มีร้านขายใบกระท่อมแล้ว หลังชาวบ้านรวมกันแสดงพลังต่อต้านเพื่อแก้ไขปัญหาการใช้พืชกระท่อมใช้ในทางที่ผิด พร้อมให้ความรู้เยาวชนป้องกันไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยว
วันนี้ (18 ก.ค.) ชุมชนปะนาเระในหลายพื้นที่เริ่มตระหนักร่วมกันถึงผลเสียจากพิษภัยพืชกระท่อม หลายชุมชนเริ่มรวมตัวออกมาแสดงพลังต่อต้านการจำหน่ายน้ำและพืชกระท่อม ล่าสุด นายมนต์ชัย หนูสาย นายอำเภอปะนาเระ พร้อมด้วย ปลัดอำเภอ ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง รวมไปถึงชาวบ้านในพื้นที่อำเภอปะนาเระ ร่วมกันขับเคลื่อนปฏิบัติการ 120 วัน เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้พืชกระท่อมใช้ในทางที่ผิด และเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
โดยถนนเส้น 42 ปัตตานี - นราธิวาส ที่จากแต่ก่อนมีการตั้งแผงริมทาง หรือ นำรถเปิดท้ายขายน้ำและใบกระท่อม ในปัจจุบันในพื้นที่อำเภอปะนาเระไม่มีให้เห็นแล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากที่ทุกฝ่ายร่วมกันรณรงค์และต่อต้านไม่ให้จำหน่ายน้ำกระท่อมในพื้นที่ ที่อาจทำร้ายสุขภาพของเยาวชนและความสงบสุขของชุมชน โดยทางเจ้าหน้าที่อำเภอปะนาเระร่วมกับเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงได้ปักป้ายในพื้นที่ ม.5 ต.ควน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี แสดงข้อความ “พวกเราไม่เอาน้ำกระท่อม ห้ามจำหน่วยน้ำกระท่อมในพื้นที่โดยเด็ดขาด”
โดยปัจจุบันพื้นที่อำเภอปะนาเระแทบไม่มีการขายใบกระท่อม - น้ำกระท่อมให้เห็นแล้ว แต่อาจยังมีคนจำนวนหนึ่งที่ยังมีการดื่มน้ำกระท่อมอยู่ ซึ่งทางอำเภอก็มีนโยบายที่เข้าไปในชุมชนเพื่อให้ความรู้และชี้โทษและผลเสียของการดื่มน้ำกระท่อมให้ชาวบ้านและเยาวชนได้รับทราบอยู่ตลอด อีกทั้งยังมีการช่วยเหลือผู้ที่อยากจะเลิกน้ำกระท่อมเพื่อกลับคืนสู่สังคมอีกด้วย
ด้านนายมนต์ชัย หนูสาย นายอำเภอปะนาเระ กล่าวว่า พื้นที่ในอำเภอปะนาเระไม่มีการปลูกกระท่อมและขายน้ำกระท่อมแล้ว ส่วนเส้นถนน 42 ตลาดปาลัส ที่เคยมีคนนอกพื้นที่มาขาย ทางเราก็ได้ใช้มาตรการทางสังคม ร่วมกับทางอิหม่าม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กำลัง 3 ฝ่ายไปคุยและย้ายออกไปแล้ว โดยปัจจุบันในพื้นที่ไม่มีคนขายแล้ว แต่อาจยังมีคนที่เสพน้ำกระท่อมอยู่ในจำนวนที่น้อย
ส่วนการป้องกันทางอำเภอได้แยกออกเป็น 3 ระดับคือ 1.ให้ความรู้โดยให้ทางสาธารณะสุขในพื้นที่ และเครือข่ายโรงเรียนทุกโรงเรียน เพื่อบอกโทษและผลเสียของการใช้น้ำกระท่อม ส่วนคนที่ยุ่งเกี่ยวทางเราก็ใช้มาตรการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อดึงเขาออกมาจากตรงนั้น, 2.คือการบำบัดรักษาผู้ที่เสพน้ำกระท่อม ตอนนี้ได้ผลเป็นอย่างมากเนื่องจากคนที่เสพลดลงเพราะได้รับการบำบัดรักษา และ 3.คือกลุ่มป้องกัน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนในสถานศึกษา ปัจจุบันไม่มีแนวโน้มที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องน้ำกระท่อม
ด้าน นายอัซมาน เจะหมะ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลควน กล่าวว่า เมื่อก่อนเคยได้ให้คนที่ขายน้ำกระท่อมในพื้นที่ให้ไปขายที่อื่นแล้ว แต่ยังมีการกลับมาขายอีกรอบ ทางเจ้าหน้าที่ อบต.ควน ร่วมกับกำลัง 3 ฝ่าย และผู้นำชุมชน จึงเข้าไปพูดอีกครั้ง และหลังจากนั้นก็ไม่กลับมาขายอีกเลย โดยเสียงจากชาวบ้านทั้งในชุมชนและตลาดบอกว่าดีมาก เพราะไม่อยากให้ลูกหลานไปยุ่งเกี่ยวสิ่งเสพติดแบบนี้ และลดการใช้น้ำกระท่อมในพื้นที่ด้วย
“ตนมองว่าใบกระท่อมหากใช้ปริมาณที่เป็นยารักษาเมื่อคนเก่าแก่แบบนั้นได้ แต่ตอนนี้วัยรุ่นนำมาต้มน้ำกระท่อมแล้วดื่มในปริมาณมาก ๆ จนตนเคยเห็นข่าวที่คนมีอาการรุนแรงจากการดื่มน้ำท่อม เลยไม่อยากให้เยาวชนในพื้นที่เป็นแบบนั้น จึงขอให้เยาวชนในพื้นที่หยุดดื่มน้ำกระท่อมจะดีกว่า ก็คงต้องร่วมรณรงค์การต่อไป” รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลควน กล่าว
