xs
xsm
sm
md
lg

ไม่เคยดับ “กองไฟ” แห่งพลังศรัทธา ชาวบ้านก่อถวาย “หลวงพ่อแหวง” พระสงฆ์ ที่มีวาจาสิทธิ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “กองไฟ” แห่งพลังศรัทธา ไม่เคยดับ ชาวบ้านก่อถวายหน้ากุฏิ “หลวงพ่อแหวง” เชื่อกันว่า เป็นพระสงฆ์ ที่มีวาจาสิทธิ์ พูดเป็นไปตามปาก ณ วัดคมนียเขต (วัดคึกคัก)


วันนี้มีโอกาศเดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดพังงา ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ สามารถเที่ยวได้ทุกฤดูกาล โดยเฉพาะการเดินทางไปไหว้พระตามวัดต่างๆ เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยจะชวนกันไปสักการะ หลวงพ่อแหวง อาภากโร อดีตเจ้าอาวาสวัดคมนียเขต หรือ วัดคึกคัก ตั้งอยู่บริเวณถนนเพชรเกษม ช่วงเขาหลัก ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ห่างจากหาดเขาหลัก ประมาณ 5-6 กิโลเมตรเท่านั้น การเดินทางสะดวกสบาย


สำหรับ “พ่อแหวง อาภากโร” เป็น พระอริยสงฆ์ ชื่อดังในฝั่งอันดามัน ซึ่งเชื่อกันว่า เป็นพระสงฆ์ ที่มีวาจาสิทธิ์ พูดเป็นไปตามปาก และเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้าน ในเขตจังหวัดพังงา ภูเก็ต และ ใกล้เคียง ซึ่งในแต่ละวันจะมีคนเดินทางไปสักการะขอพรกันจำนวนมาก ท่านเป็นพระที่เปี่ยมไปด้วยเมตตาธรรม มีจริยาวัตรเรียบง่าย ปฏิบัติสมาธิ วิปัสสนากรรมฐานอย่างเคร่งครัด อีกทั้งใฝ่ศึกษาวิชาไสยเวท ร่ำเรียนวิทยาคม หลวงพ่อแหวงได้ “ผิงไฟ” มาตลอดชีวิต โดยท่านจะสรงน้ำเพียงปีละครั้งใน คือ วันสงกรานต์ เท่านั้น จนชาวบ้านกล่าวขานกันว่าท่าน “อาบไฟแทนน้ำ”


อย่างไรก็ตามหลวงพ่อแหวงมรณภาพ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2511 สิริรวมอายุ 87 ปี พบว่าสังขารของท่านไม่เน่าเปื่อย ทางวัดจึงได้นำสังขาร ของท่านบรรจุไว้ในโลงแก้วให้ผู้คนได้กราบสักการะกัน


เมื่อเราเดินทางเข้าไปถึงวัด สิ่งหนึ่งที่จะเห็นคือ บริเวณกุฏิไม้หลังเล็ก ๆ จะมีกลุ่มควันไฟลอยคลุ้งอยู่ตลอดทั้งวัน ทั้งคืน สร้างความสนใจและความสงสัยให้กับคนต่างถิ่นที่แวะเวียนเข้ามาทำบุญและติดต่อกับทางวัด เมื่อเดินเข้าไปถึงบริเวณกุฎไม้ดังกล่าว ด้านหลังควันไฟก็จะเห็น รูปปั้นของพระ ซึ่งทราบว่าเป็นรูปปั้นขนาดองค์จริง ของหลวงพ่อแหวง อาภากโร เจ้าอาวาสวัดคึกคัก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2484-2511 รวม 27 ปี และมรณะภาพไปเมื่อปี 2511


โดยจะมีร่องรอยปิดทองคำเปลวตั้งแต่บันได เก้าอี้ไม้ รูปปั้น และ รูปถ่าย ไม้เท้า และ อื่นๆที่เป็นของหลวงพ่อแหวง ส่วนบริเวณด้านหน้ากุฎไม้จำลอง มีกองไฟขนาดกลางอยู่ ซึ่งเป็นกองไฟที่ชาวบ้านช่วยกันก่อไว้ ถวายแด่หลวงพ่อแหวง หลังมรณภาพ โดยกองไฟแห่งนี้เรียกกันว่ากองไฟแห่งศรัทธา เป็นกองไฟฟที่ไม่เคยดับตั้งแต่อดีต จนถึงทุกวันนี้เป็นเวลากว่า 50 ปีแล้ว โดยจะมีคนมาคอยเติมไม้ฟืนใส่อยู่ตลอด ซึ่งตอนที่มีชีวิตหลวงพ่อจะผิงไฟ อาบไฟแทนน้ำมาตลอดชีวิต โดยท่านจะสรงน้ำปีละครั้งในวันสงกรานต์เท่านั้น


ขณะที่ใกล้ ๆ กับกุฏิจำลองของหลวงพ่อแหวง เป็นที่ตั้งของ ศาลา “อนุสาวรีย์หลวงพ่อแหวง อาภากโร” ภายในมีรูปเคารพหลวงพ่อแหวงและสังขารไม่เน่าเปื่อยของท่านที่บรรจุอยู่ในโลง เพื่อผู้นับถือศรัทธากราบสักการบูชา ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของวัดคึกคักที่ใครไปเยือนไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง


สำหรับคนที่มาวัดคึกคัก นอกจากจะมีการกราบไหว้ด้วยความศรัทธา สิ่งที่หลายคนมาแล้วไม่ผิดหวังคือการขอพรจากหลวงพ่อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาการป่วย หน้าที่การงาน รวมทั้งเรื่องของโชคลาภ ชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัด เล่าว่า พ่อท่านแหวงมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก เคยมีประสบการณ์ด้วยตนเองว่า ปวดขา รักษาแพทย์ปัจจุบันก็ไม่หาย คนแก่บอกว่าให้กราบไหว้หลวงพ่อและผิงไฟหน้ากุฏิแล้วจะหาย เมื่อทำตามที่บอกก็หายจริง ๆ
หลวงพ่อแหวง อาภากโร ผู้เรืองวิทยาคมและไสยเวท


สำหรับหลวงพ่อแหวง ขณะที่มีชีวิตอยู่ท่านมีจริยาวัตรเป็นพระที่อยู่อย่างเรียบง่าย มีความเมตตาต่อทุกคน ฉันอาหารเพียงมื้อเดียว โดยในวันธรรมดาท่านจะฉันแค่ผลไม้ ส่วนวันพระจะฉันข้าวเพียง 9 คำเท่านั้น ท่านปฏิบัติเป็นพระป่า เมื่อออกพรรษาทุกปีจะออกธุดงควัตรเพื่อแสวงหาโมกขธรรม และกลับวัดเมื่อถึงช่วงเข้าพรรษา ท่านได้เพียรบำเพ็ญบารมีธรรม ปฏิบัติสมาธิ วิปัสสนากรรมฐานอย่างเคร่งครัด อีกทั้งใฝ่ศึกษาวิชาไสยเวท ร่ำเรียนวิทยาคมทุกแขนงจากครูบาอาจารย์ต่าง ๆ


หลวงพ่อแหวงเป็นศิษย์ของ พระครูประสาทประกฤตพรต อดีตเจ้าอาวาสวัดคึกคักองค์แรก เรียนวิชาสมุนไพรใบยา วิชามหาประสาน ไสยเวทมนตรา จนสำเร็จ ท่านพระครูประสาทประกฤตพรตจึงได้ฝากฝังให้ไปเรียนวิชากสิณไฟ ผงพระเจ้าโปรดโลก ผงพระสีวลี และผงมหาราชศรีวิชัย จาก พระอุปัชฌาย์เทือก มานจาโร ผู้วิเศษอันลือเลื่องแห่งวัดบ่อแสน อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา มงคลวัตถุของท่านในปัจจุบันเป็นของดี ล้ำค่า หายาก สืบเนื่องจากมีประสบการณ์อันโด่งดังมาช้านานหลายทศวรรษ




กำลังโหลดความคิดเห็น