ชุมพร- ผู้ใหญ่บ้านที่ชุมพร แจงแล้วเงินล้าน จากการตัดปาล์มหมู่บ้านขาย อ้างตรวจสอบได้ เชื่อขัดแย้งปมการเมืองการท้องถิ่น ส่วนชาวบ้านกลุ่มผู้ร้องยังคาใจแจงไม่ชัด หลักฐานรายรับรายจ่ายไม่มี เสียงแตกหวิดปะทะกโต้เถียงกันวุ่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 8 ก.ค.68 ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งในพื้นที่หมู่ 6 ตำบลสลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ร้องเรียนผ่านผู้สื่อข่าว ทวงถามผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ถึงเรื่องรายรับรายจ่าย เงินจากการขายผลปาล์มน้ำมันในพื้นที่สาธาณะของหมู่บ้านจำนวน 47 ไร่ นาน 7 ปี เป็นเงินกว่า 2.5 ล้านบาท แต่ไม่มีการชี้แจงและไม่เข้าประชุมประจำเดือนหมู่บ้าน ส่งแต่ผู้ช่วยใหญ่บ้านเข้าแทน และบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา ที่ผ่านมาได้ร้องเรียนหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับอำเภอและจังหวัด เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องก็เงียบไม่มีความคืบหน้า ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าวผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ค.68 ภายหลังจากที่เป็นข่าว ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวปัจจุบันได้รับแต่งตั้งเป็นกำนัน ได้นัดลูกบ้านประชุมเร่งด่วน เพื่อชี้แจงตามที่มีกลุ่มชาวบ้านผู้ร้องทวงถามเรื่องเงินจากการขายผลปาล์มน้ำมันดังกล่าวนั้น ปรากฏว่า ถึงเวลานัดประชุมเวลา 13.00 น. มีชาวบ้านในพื้นที่ให้ความสนใจเข้าร่วมประชุมประมาณกว่า 100 คน ณ ที่ทำการคณะกรรมการหมู่บ้านเนินทอง หมู่ 6 ตำบลสลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร
โดยผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งปัจจุบันได้รับแต่งตั้งเป็นกำนัน แจ้งในที่ประชุมว่าที่ตนเองไม่ได้เข้าร่วมประชุมหมู่บ้านในวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมานั้นเนื่องจากตนต้องไปชี้แจงกรณีถูกชาวบ้านทำหนังสือร้องเรียนเรื่องเงินล้านจากการขายปาล์มน้ำมันต่อคณะกรรมการไต่สวนหาข้อเท็จจริงที่ว่าการอำเภอท่าแซะ แต่ไม่สามารถนำเอกสารดังกล่าวให้ทุกคนดูได้และห้ามชาวบ้านถ่ายภาพและนักข่าวถ่ายภาพเปิดเผยต่อสาธารณะหรือเปิดเผยในที่ประชุมได้ แต่อนุญาตให้ตัวแทนชาวบ้าน 3 คนดูเอกสารได้พร้อมยืนยัน
จากนั้นผู้ใหญ่บ้านได้แจงต่อชาวบ้านที่เข้าร่วมประชุมถึงภารกิจหน้าที่ ที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ได้รับตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้านเมื่อปี 2561 หรือเมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว เช่นการใช้จ่ายเงินพร้อมทั้งแจกแจงผลงานของหมู่บ้านด้านสมาชิก อปพร. ชุดฝึก อุปกรณ์ไฟไซเรน กิจกรรมของ อสม. กิจกรรมต่อต้านยาเสพติด สนับสนุนกิจกรรมกีฬาต่างๆและแจงเรื่องประปาหมู่บ้านกรณีถ้าเสียต้องให้เงินซ่อมหลายหมื่นบาท
ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านได้ชี้แจงเรื่องต่างๆอยู่นั้นชาวบ้านผู้ร้องก็ทักท้วงขึ้นมาว่า ที่ชาวบ้านมาประชุมในวันนี้ไม่ใช่มารับฟังผลงานหรือเรื่องกิจกรรมอื่นๆ แต่ต้องการรู้ว่าเงินขายผลปาล์มน้ำมันตั้งแต่เป็นผู้ใหญ่จนปัจจุบันเป็นกำนันแล้วนั้น อยากรู้ว่าทำไมไม่มีบัญชีรายรับว่าแต่ละรอบแต่ละเดือน แต่ละปีมีบิลขายปาล์มได้กี่ตันและเป็นเงินเท่าไหร่ ทำไมไม่มีการชี้แจงบัญชีรายรับรายจ่ายว่าเอาเงินไปทำอะไรบ้าง และเหลือเท่าไหร่
โดยผู้ใหญ่บ้านได้นำเอกสารจากโรงงานรับซื้อปาล์มมาชี้แจงทั้งหมดแต่ไม่ใช่เป็นบิลชั่งน้ำหนักหรือที่ชาวบ้านเรียกว่าใบเหลืองแต่ละรอบแต่ละครั้งในการตัดผลปาล์มน้ำมันขาย ผู้ใหญ่อ้างว่างบิลขายปาล์มตั้งแต่ปี 2561-2568 บิลบางส่วนอาจขาดหายไป จึงให้โรงงานปาล์มสรุปรวมมาให้บอกว่าชาวบ้านสามารถมาขอดูได้ หลังจากนี้เอกสารขายปาล์มที่โรงงานออกมาให้จะติดไว้ที่ศูนย์ประชุมหมู่บ้านให้ดู
แต่อย่างไรก็ตามทำให้ชาวบ้านผู้ร้องยังคาใจและต้องการเอกสารหลักฐานค่าใช้จ่ายว่าเงินใช้จ่ายอะไรบ้าง ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านแจงอีกว่าบางครั้งค่าใช้จ่ายก็ไม่ได้ทำเบิกกับเงินหมู่บ้านด้วยซ้ำโดยใช้เงินส่วนตัว
ขณะเดียวกันมีชาวบ้านส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นกลุ่มญาติและอีกส่วนหนึ่งเป็นคนที่รับจ้าตัดปาล์มของผู้ใหญ่บ้านได้เข้าใจในการชี้แจง แต่กลุ่มชาวบ้านผู้ร้องเรียนก็ยังยืนยันให้แสดงบิลรายรับรายจ่ายขายปาล์มเดือนต่อเดือน ไม่ใช่ให้โรงงานรับซื้อปาล์มลีดเป็นสแตทเม้นรวมมาให้ ทำให้ชาวบ้านเริ่มโต้เถียงมีปากเสียงกันดังลั่นและแตกแยกเป็นสองกลุ่ม สองฝ่าย ทางผู้ใหญ่บ้านเห็นว่าสถานการณ์บานปลายจึงขอยุติและปิดการประชุม
จากนั้นผู้ใหญ่บ้าน ได้ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวว่า “โดยสรุปชาวบ้านต้องการใบขายผลปาล์มน้ำที่เป็นสีเหลือง แต่หมู่บ้านขอเป็นเอกสาร สลีปตัวจริงของบริษัทลานเทมาชี้แจง ส่วนรายรับรายจ่ายทั้งหมดจะเอามาติดไว้ที่หมู่บ้าน ตอนนี้มีหลายประเด็นแต่ประเด็นหลักๆอาจจะเป็นการเมืองที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะว่าก่อนหน้าที่จะเป็นกำนัน มีการพูดคุยกันนอกรอบที่มีชาวบ้านมาประชุมกันไม่ให้ตนรับตำแหน่งนี้ พอได้รับตำแหน่งแล้วจะทำอย่างไรให้กำนันเสียชื่อเสียง
ส่วนที่ทำให้ชาวบ้านบางส่วนมีข้อสงสัยเรื่องดังกล่าวนั้น เนื่องจากชาวบ้านที่มาเข้าร่วมประชุมประจำมีประมาณ 60 คน ส่วนผู้ที่มีข้อสงสัยไม่เคยมาร่วมประชุมหมู่บ้านเลยหรือบางคน 1 ปี มาร่วมประชุมสัก 1 ครั้ง และมีผู้สงสัยเรื่องดังกล่าวมากที่สุดก็ตั้งแต่ลูกแพ้เลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน 7 ปีมาประชุมแค่ 3 ครั้ง จึงไม่รู้รายละเอียด
สำหรับการใช้จ่ายเงินมีมติในที่ประชุมตั้งแต่ปี 2563 เรียบร้อยแล้วสามารถใช้จ่ายในเรื่องที่เกี่ยวข้อง ส่วนรายละเอียดการทำเอกสารมีผู้ดูแลตรวจสอบเรียบร้อย หมู่ที่ 6 เป็นหมู่ที่มีประชากรเยอะประ
มาณ 1,379 คนโดยประมาณ ซึ่งการปฏิบัติตามแนวทางไม่สามารถให้เปะในส่วนเอกสารต่างๆ
ต่อไปหากมีการตัดปาล์มหรืออะไรก็แล้วต้องแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบดูแลความเรียบร้อย ซึ่งแนวทางการจัดทำบัญชีเราไม่ได้มีความถนัดเพราะไม่ได้จบบัญชี แต่เรามีความเชื่อหมั่นว่าเราไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งว่าจะเอาเงินส่วนนี้ไปใช้ส่วนตัว อีกอย่างค่าใช้จ่ายในหมู่บ้านมีรายละเอียดและรูปภาพกิจกรรมประกอบอยู่ด้วย
ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวอีกว่า สำหรับค่าใช้จ่ายของหมู่บ้านตลอด 7 ปีที่ผ่านมา บางปีค่าใช้จ่ายอาจจะติดลบ 20,000-30,000 บาท รวมกันปัจจุบันติดลบประมาณ 100,000 กว่าบาท เป็นเงินที่ออกเองสำรองไปก่อนเพื่อกิจกรรมของหมู่บ้าน ซึ่งสามารถแจกแจงมีรายละเอียดทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากนี้จะดำเนินการอย่างไรเพื่อสร้างความเชื่อมั่นใจให้ชาวบ้าน ผู้ใหญ่ตอบว่า ในส่วนการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารในแอปพลิเคชันไลน์กลุ่มซึ่งมีชาวบ้านเพียง 198 คน อาจจะยังไม่ครบถ้วนกับประชากรในหมู่บ้านมีกว่า 1000 คน 600 กว่าครัวเรือน และพื้นที่หมู่บ้านโซนบนไม่มีสัญญาณโทรศัพท์และผู้สูงอายุไม่สามารถรับรู้ข่าวสารตรงนี้ได้” กำนันกล่าว
