ชุมพร – เกิดเหตุหนุ่มใหญ่วัย 57 ปี ใช้มีดงอฟันรุ่นน้อง คอเกือบขาดดับคาบ้าน ตำรวจตามจับได้ทันควัน อ้างทะเลาะกันทำให้บันดาลโทสะจึงใช้มีดงอฟันดับ
เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 9 กรกฎาคม 68 ร.ต.อ.มนตรี เกิดมี รอง สว.(สอบสวน)สภ.ท่าแซะ ได้รับแจ้งเหตุมีบุคคลถูกทำร้ายจนถึงแก่ความตาย ที่บ้านเลขที่ 84 ม.2 ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.วิชัย แสงวิเชียร รอง ผกก.สภ.ท่าแซะ พ.ต.ท.สมเกียรติ ฉีดเกตุ สว.สืบสวน ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรประจำ รพ.ท่าแซะ และเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัย อบต.รับร่อ
ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวปลูกอยู่ในถนนซอยบ้านแก่งตาล ห่างจากสำนักสงฆ์แก่งตาลเพียง 100 เมตร และห่างจากถนนสายเพชรเกษม 10 กม.เจ้าหน้าที่พบศพทราบชื่อภายหลัง คือ นายสาธิต บานเย็น อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ที่ 2 ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร นอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อยืดแขนสั้นคอกลม สีเทาดำ นุ่งกางเกงขายาวลายพรางทหาร นอนตายอยู่บนที่นอนภายในห้องนอนด้านหลังของบ้าน โดยสภาพศพถูกฟันด้วยของมีคม เข้าบริเวณมุมปากด้านซ้ายยาวไปถึงโกนแก้มเป็นแผลฉกรรจ์ และเข้าบริเวณก้านคอด้านซ้ายจนเกือบขาด มีรอยเลือดลักษณะกระเซ็นติดอยู่บริเวณฝากผนัง และบริเวณประตูหลังบ้าน
จากการตรวจสอบบริเวณบ้านพบว่าประตูหน้าบ้านปิดล๊อกด้านนอก มีทางเข้าออกทางเดียวคือทางประตูหลังบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บร่วมรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ก่อนจะให้ชุดกู้ชีพกู้ภัยนำศพไปรพท่าแซะ ชันสูตรอย่างละเอียด
จากการสอบถาม น.ส.ภุมริน วงค์สุวรรณ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 146/1 ม.6 ต.วังหลุม อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ซึ่งเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ ทราบว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนเองพร้อมสามี คือ นายดำเนิน เนตรสถิต อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 ม.2 ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้ไปนอนเฝ้าสวนทุเรียนให้กับนายจ้างจนเช้า ก็ได้ขับรถ จยย.มาที่บ้านของ นายสาธิต หรือใหญ่ ผู้ตาย ซึ่งเป็นคนสนิทกันกับสามี อีกทั้งบ้านสามีกับบ้านนายสาธิต ห่างกันประมาณ 2 กม.เศษ และเมื่อมาถึงตนเองและสามี ก็ได้เข้าไปนอนพักเอาแรงที่ขนำ ซึ่งอยู่หลังบ้านที่เกิดเหตุ
น.ส.ภุมริน เล่าอีกว่า จนกระทั่งมาถึงช่วงประมาณ 17.00 น.พี่สาวของสามี ได้โทรศัพท์มาพร้อมไหว้วานให้ช่วยไปเอาขนุนจำปาดะจากที่บ้านไปขายให้ด้วย ซึ่งตนเองก็รับปากแต่ระหว่างที่จะไปเอาขนุนจำปาดะ สามีได้บอกว่าหิวข้าวตนเองก็เดินไปที่บ้านของนายสาธิต โดยเปิดเข้าบริเวณประตูหลังบ้านและเมื่อเข้าไปในบ้านแล้วก็พบว่านายสาธิตนอนอยู่บนที่นอน และสาธิตได้ลุกขึ้นทักทายตนก่อนที่จะล้มตัวลงนอนต่อ ส่วนตนก็เข้าไปในห้องครัว พร้อมกับปิดประตูครัวเพื่อไม่ให้กลิ่นกับข้าวออกไปรบกวนการนอนของนายสาธิต
ขณะที่ตนเองกำลังทอดไข่เจียวให้สามีอยู่ ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนเปิดประตูด้านหลังบ้าน และไม่นานก็ได้ยินเสียงดังฉับ ตนจึงเปิดประตูหลังครัวออกมาดู ก็พบว่านายสาธิต มีเลือดพุ่งออกมาบริเวณต้นคอ และภายในห้องตอนนั้นไม่มีใครอยู่ ตนเองจึงได้รับวิ่งออกมาจากบ้านเพื่อมาตามสามี ก็ได้เจอกับนายเลี่ยง ซึ่งทราบชื่อจริงและนามสกุล คือ นายอิ้วเลี่ยง แดงสกล อายุ 57 ปี ที่อยู่ 80 หมู่ที่ 2 ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร โดยนายเลี่ยงถามว่ามีอะไรก่อนจะเดินไปด้วยท่าทีเร่งรีบ โดยในมือขวาถือมีดขอเปื้อนเลือด ก่อนจะเดินหายไปทางท่าดูดทราย และตนจึงได้โทรศัพท์แจ้งทางตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ระดมออกตรวจค้นบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุ โดยมุ่งหน้าไปเส้นทางที่นายอิ้วเลี่ยง เดินหลบหนีไป จนพบตัวนายอิ้วเลี่ยงผู้ก่อเหตุ ยืนหลบอยู่ในที่มืด ภายในท่าดูดทรายร้าง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ ม.13 ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ห่างจากจุดเกิดเหตุ ไปเพียง 300 เมตร และใกล้บ้านของนายอิ้วเลี่ยงเพียงเล็กน้อย เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวพร้อมมีดงอของกลาง มายัง สภ.ท่าแซะ เพื่อทำการสอบปากคำ
ในเบื้องต้นทางนายอิ้วเลี่ยง ไม่ยอมให้การใดๆเนื่องจากเกิดความเครียด แต่ตอบสั้นเพียงว่า ทะเลาะกันจึงบันดาลโทสะ จึงได้นำตัวเข้าห้องขังเพื่อให้อาการคลี่คลาย โดยให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยเฝ้าดูอย่างใกล้ชิดเพราะเกรงว่าจะคิดสั้นเพื่อหนีความผิดที่ก่อเหตุในครั้งนี้ โดยในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไว้ก่อน”