นราธิวาส - ศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามเหตุนักเรียนทำร้ายร่างกายภายในโรงเรียน หลังมีการส่งต่อข้อมูลจนเกิดกระแสไวรัลในสื่อสังคมออนไลน์ พร้อมเร่งให้ความช่วยเหลือดูแลเด็กทั้ง 2 คน
วันนี้ (9 ก.ค.68) นายชาร์รีฟท์ สือนิ ศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบกระเช้าสิ่งของและเงินบำรุงขวัญ แก่นักเรียนหญิงที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุทำร้ายร่างกายในโรงเรียน และมีการส่งต่อข้อมูลจนเกิดกระแสไวรัลในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งขณะนี้พักรักษาตัวที่บ้านในพื้นที่อำเภอเจาะไอร้อง
ผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 โดยนักเรียนชายชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 2 ใช้ไม้ซึ่งคาดว่าเป็นขาเก้าอี้ที่ชำรุด ทำร้ายศีรษะของนักเรียนหญิงชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 จนต้องเย็บถึง 6 เข็ม หลังเกิดเหตุ โรงเรียนได้เชิญผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายร่วมพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ข้อสรุปว่า นักเรียนหญิงยังคงประสงค์เรียนที่โรงเรียนเดิม ขณะที่นักเรียนชายให้หยุดเรียนชั่วคราว 7 วัน ส่วนเรื่องคดีเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ทั้งนี้ โรงเรียนจะได้เร่งปรับปรุงสภาพแวดล้อม และเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยในโรงเรียน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีกในอนาคต
นายชาร์รีฟท์ สือนิ ศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า หน่วยงานด้านการศึกษา ทั้งสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดและสำนักงานการศึกษาเอกชน พร้อมให้ความช่วยเหลือและดูแลนักเรียนทั้งสองฝ่ายอย่างเต็มที่ พร้อมฝากถึงผู้ปกครองให้หมั่นพูดคุย ใส่ใจความเป็นอยู่ของบุตรหลานอย่างใกล้ชิด เพราะในสภาพสังคมปัจจุบัน เด็กๆ ต้องการกำลังใจและพื้นที่ปลอดภัยในการสื่อสารกับครอบครัว ขณะเดียวกัน โรงเรียน โดยเฉพาะครูที่ปรึกษา ก็ต้องร่วมขับเคลื่อนระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างจริงจัง โดยใช้ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน
ด้านบิดาของ ด.ช. ผู้ก่อเหตุ ระบุว่า จะนำเด็กไปเรียนต่อในโรงเรียนใกล้บ้าน พร้อมขอคำแนะนำและการดูแลจากศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส ซึ่งศึกษาธิการฯ ยืนยันว่าจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม เนื่องจากเด็กยังเป็นผู้เยาว์ และควรได้รับโอกาสในการศึกษาต่อในระบบ
ขณะที่ผู้แทนจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นนักสังคมสงเคราะห์ เปิดเผยว่า จะลงพื้นที่ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินสภาพจิตใจ พฤติกรรมเด็ก รวมถึงสภาพแวดล้อมในครอบครัว เพื่อวางแนวทางให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำต่อไป
นายอภิญญา รัตนวรชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยถึงกรณีคลิปเหตุทำร้ายร่างกายของนักเรียนภายในโรงเรียน ซึ่งเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ว่า หลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 ทางครูและผู้บริหารโรงเรียนได้รายงานเหตุการณ์ต่อสำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอและจังหวัดทันที พร้อมนำนักเรียนหญิงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล โดยขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ต่อมาในวันที่ 8 กรกฎาคม ได้เชิญผู้ปกครอง ผู้บริหารโรงเรียน และผู้แทนจากสำนักงานการศึกษาเอกชน ร่วมพูดคุยเพื่อสร้างความเข้าใจ และร่วมกันวางแนวทางในการให้ความช่วยเหลือ รวมถึงป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ ทั้งนี้ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังเป็นเด็ก จึงได้ประสานให้นักจิตวิทยาและเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าร่วมดูแลอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ สำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดฯ ได้เน้นย้ำมาโดยตลอดว่า “โรงเรียนต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัย” และมีการซักซ้อมแผนรับมือ ทั้งในเรื่องการเดินทาง การใช้ชีวิตในโรงเรียน และการป้องกันการบูลลี่ แต่เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น จึงจำเป็นต้องถอดบทเรียน และร่วมกันหามาตรการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต
ขณะที่นางสมใจ ธรรมเพชร ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนราธิวาส ปฏิบัติหน้าที่ยุติธรรมจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า สำนักงานยุติธรรมจังหวัดมีหน้าที่ดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากคดีอาญา รวมถึงกรณีทำร้ายร่างกาย ล่าสุดผู้ปกครองของ ด.ญ. ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความไว้แล้ว จึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่แจ้งสิทธิในการรับความช่วยเหลือตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายฯ พ.ศ.2544 ได้แก่ ค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 40,000 บาท, ค่าฟื้นฟูร่างกายและจิตใจไม่เกิน 20,000 บาท และค่าตอบแทนความเสียหายอื่นไม่เกิน 50,000 บาท ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับผลสรุปจากพนักงานสอบสวนและการพิจารณาของอนุกรรมการระดับจังหวัด และขั้นตอนต่อไปจะมีการติดตามเอกสารประกอบ เช่น ใบรับรองแพทย์ เมื่อเอกสารครบถ้วน จะนำเข้าสู่ที่ประชุมอนุกรรมการจังหวัด ซึ่งประชุมเดือนละครั้ง และหากได้รับอนุมัติ กรมคุ้มครองสิทธิฯ จะดำเนินการโอนเงินให้ผู้เสียหายโดยตรง
ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนราธิวาส ได้กล่าวเพิ่มด้วยว่าหากผู้เสียหายต้องการคำปรึกษาด้านกฎหมาย สามารถขอรับบริการฟรีจากกระทรวงยุติธรรมได้ และในกรณีที่ถูกข่มขู่หรือคุกคาม ยังสามารถขอรับการคุ้มครองพยานตาม พ.ร.บ.คุ้มครองพยาน พ.ศ.2546 ได้อีกด้วย รวมถึงสิทธิในการดำเนินคดีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผู้กระทำความผิด โดยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดนราธิวาส โทรศัพท์.073-531234-5