ชุมพร - จับแล้วน้องชายวัย 69 รัวยิงพี่สาว ดับหน้าร้านอาหารตามสั่ง ปมมรดกที่ดิน สารภาพแค้นแม่ตายกว่า 3 ปี ไม่ยอมแบ่งที่ให้ ปฎิเสธทำแผนกลัวไม่ปลอดภัย ส่วนลูกสาวผู้ตายผวากลัวผู้ต้องหาโหดได้ประกันตัวออกมายิงล้างครัว
จากกรณี นายศุภชัย โพธิ์คีรี หรื อตุ้ม อายุ 69 ปี น้องชาย ใช้อาวุธปืนสั้นขนาด .22 แม็กนั่ม รัวยิง นางสุภา ภู่ทอง อายุ 72 ปี พี่สาวตายอนาถหน้าบ้นตนเองที่เปิดเป็นร้านอาหารตามสั่งและขายของชำ และ ยิงนางปราณี กุหลาบสี อายุ 68 ปี พี่สะไภ้ของผู้ก่อเหตุ ที่มาช่วยพี่สามี ที่ร้านเกิดเหตุ โดยถูกกระสุนแถลบเข้าที่แขนขวาบาดเจ็บเล็กน้อย และ นายศุภัย ยังลั่นกระสุนใส่ นางสาวนัฎ โพธิ์คีรี อายุ 53 ปี ลูกสาวผู้ตายซึ่งเป็นหลานสาวของผู้ก่อเหตุด้วย โดยทั้ง 2 คน วิ่งหนีรอดตายมาได้ เหตุเกิดช่วงสายวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 ที่ร้านอาหารตามสั่ง เลขที่ 7/8 ม.4 ต.ดอนยาง อ.ปะทิว จ.ชุมพร ส่วนมือปืนหลังก่อเหตุได้ขับรถยนต์กระบะอีซูซุ ตอนครึ่ง สีเขียว ทะเบียน บว.2763 ชุมพร หลบหนีไป
หลักเกิดเหตุตำรวจชุดสืบสวน นำโดย พ.ต.ท.ชาติชาย มูลลักษณ์ รอง ผกก.สส สภ.มาบอำมฤติ ภายใต้สั่งการของ พ.ต.อ.ชนินทร์ ณรงค์น้อย ผกก.สภ.มาบอำมฤต ได้นำกำลังออกสอบปากคำพยานบุคคล พยานแวดล้อม รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติศาลจังหวัดชุมพร ออกหมายจับในช่วงเย็นวันเดียวกัน ในข้อหา "ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น , ข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันควรและยิงปืนโดยใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน"
กระทั่งช่วงสามทุ่มของเมื่อคืน วันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ผ่านมาตำรวจชุมดสืบสวน สภ.มาบอำมฤต ได้ติดตามจับกุม นายศุภชัย โพธิ์คีรี อายุ 69 ปี ผู้ก่อเหตุได้ขณะหลบหนีซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 4 ตำบลดอนยาง อ.ปะทิว จ.ชุมพร พร้อมคุมตัวมาสอบสวน และคุมขังไว้ที่ สภ.มาบอำมฤต โดยในช่วงเช้าวันนี้ (8 ก.ค.) ได้มีบรรดาเครือญาติมาเยี่ยมและนำอาหาร น้ำ เครื่องดื่ม มาให้ผู้ต้องหาอยู่เรื่อยๆ
ด้าน พ.ต.อ.ชนินทร์ ณรงค์น้อย ผกก.สภ.มาบอำมฤต หลังเกิดเหตุตำรวจก็ได้ขอศาลจังหวัดชุมพร อนุมัติหมายจับและติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านของผู้ต้องหาเอง พร้อมของกลางรถยนต์ที่ใช้หลบหนี อาวุธที่ใช้ก่อเหตุ และผู้ต้องหาก็รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยปมเหตุมาจากเรื่องที่ดินมรดก ผู้ต้องหาเข้าใจว่าแม่ตายมานาน 3 ปีแล้ว แต่พี่สาวตนเองยังไม่แบ่งให้ จึงเข้าใจว่าจะฮุบที่ดินทั้งหมด 5 ไร่ ไว้เป็นของตนเองแต่เพียงผู้เดียว แต่ความจริงแล้วได้มีการพูดคุยจะแบ่งให้กับพี่น้องที่ยังมีชีวิตอยู่ทั้งหมด 6 คน แต่เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นคนอารมณ์ร้อน ใจร้อนค่อนข้างรุนแรง จึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
พ.ต.อ.ชนินทร์ กล่าวว่า ผู้ต้องหามีความประสงค์จะไม่ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เนื่องจากกังวลและกลัวเรื่องความไม่ปลอดภัย ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาอยู่แล้ว และจำนำตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดชุมพร ในวันพรุ้งนี้ต่อไป
ขณะที่ นางสาวนัฎ โพธิ์คีรี อายุ 53 ปี ลูกสาวผู้ตายและเป็นหลานสาวของผู้ก่อเหตุ ตำรวจได้เชิญตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม ที่ สภ.มาบอำมฤต หลังสอบปากคำเสร็จได้รีบไปที่วัดดอนยาง ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพ นางสุภา ภู่ทอง อายุ 72 ปี ผู้เป็นแม่
โดย นางสาวนัฎ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า แม่ตนที่ถูกยิงตายร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเพราะเพิ่งจะไปทำกายภาพที่โรงพยาบาลมา จึงเดินไม่สะดวกมากนัก จนมาถูกน้องชายของตัวเองยิงตาย ซึ่งนายศุภชัยผู้ก่อเหตุนั้นทราบว่าวันเกิดเหตุได้คิดและไตร่ตรองไว้แล้ว เนื่องจากมีชาวบ้านเห็นว่าได้ขับรถตามหาแม่ตนมาตั้งแต่ตอนไปทำบุญที่วัดจนมาถึงบ้านแล้วก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
นางสาวนัฎกล่าวต่อว่า ตอนนี้ตนกลัวเรื่องความปลอดภัยมาก เพราะหากนายศุภชัยผู้ต้องหามีเจตนาต้องการฆ่าตนกับแม่ล้างครัวเลย ตอนเกิดเหตุแม่ตะโกนบอกให้ตนวิ่งหนีได้ทันว่าไอ้ "ตุ้ม" มันมาดักยิงแม่" ให้ตนวิ่งหนีเข้าในบ้านปิดประตู ถ้านายศุภชัยผู้ต้องหา ได้ประกันตัวออกมาเขาต้องมาฆ่าตนแน่นอน และอยากให้รับโทษตลอดชีวิต เพื่อรับกรรมที่ได้ฆ่าพี่สาวของตนเอง.