ศูนย์ข่าวภูเก็ต – สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินพร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีได้รับการร้องเรียน อบต.เชิงทะเล จ.ภูเก็ต ไม่ดำเนินการตามกฏหมายกับโครงการก่อสร้างที่พักแห่ง ในพื้นที่หาดสุรินทร์
ร้อยตำรวจตรี พงศกร มีพันธุ์ ผู้อำนวยการส่วนสอบสวน 4 สำนักสอบสวน 4 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อเข้าร่วมประชุมตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับ สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ตสาขาถลาง และผู้อำนวยการกองช่าง องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงตามเรื่องร้องเรียนกรณีผู้ประกอบการโรงแรมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ร้องเรียนว่า
องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล ในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นไม่ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ประกอบการ โครงการ โอเชียน่า สุรินทร์ โดยโครงการดังกล่าวทำการก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างภายในพื้นที่ ไม่เป็นไปตามรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนก่อสร้างอาคารไม่ถูกต้องตามแผนผังใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร อันไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ 2522
ผลการประชุมร่วมกันและลงพื้นที่พบว่า โครงการดังกล่าวมีค่าความสูงของพื้นที่ก่อสร้างอาคารตามข้อเท็จจริงในพื้นที่สูงกว่าข้อมูลระดับเส้นชั้นความสูงของระดับน้ำทะเลปานกลางตามที่ระบุไว้ในรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม และบางอาคารได้มีการเพิ่มหรือขยายรูปทรงหรือสัดส่วนของโครงสร้างฐานรากอาคาร โดยเพิ่มปริมาณเสาค้ำยันและเพิ่มความสูงของเสารากฐานใต้พื้นชั้นจอดรถยนต์ ซึ่งผิดไปจากแบบแปลนหรือรายการประกอบแบบแปลนที่ได้รับอนุญาตจากทางราชการ อันเข้าข่ายเป็นการก่อสร้างอาคารที่ผิดไปจากแผนผังบริเวณแบบแปลนหรือรายการประกอบแบบเป็นที่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ไม่ตรงกับข้อมูลที่แสดงไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม เจ้าของโครงการดังกล่าวจึงต้องยื่นเอกสารประกอบการขออนุญาตแก้ไขเปลี่ยนแปลงแผนผังบริเวณแบบแปลนหรือรายงานประกอบแบบแปลนของอาคารต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นใหม่
อีกทั้งจากการตรวจสอบของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินพบว่า รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม เมื่อปี พ.ศ 2562 ของโครงการดังกล่าว ซึ่งได้รับการเห็นชอบจากผู้เชี่ยวชาญ นั้น ได้หมดอายุลงแล้ว ดังนั้น ณ ปัจจุบันโครงการดังกล่าวจึงต้องยื่นรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมใหม่ทั้งโครงการ และขออนุญาตก่อสร้าง โครงการใหม่ทั้งโครงการต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นอีกด้วย
ทั้งนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร ได้ออกคำสั่งให้ระงับการก่อสร้างดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคารตามแบบ ค.3 และออกคำสั่งห้ามใช้อาคาร ที่อาจเป็นภัยอันตรายตามแบบ ค. 4 และออกคำสั่งให้เจ้าของโครงการยื่นคำขออนุญาต หรือดำเนินการแจ้งหรือดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงการก่อสร้าง ดัดแปลงหรือถอน หรือการเคลื่อนย้ายอาคารตามแบบค. 5 เรียบร้อยแล้ว แต่เจ้าของโครงการดังกล่าว ยังไม่ได้ยื่นแบบแก้ไขแต่อย่างใด จนนำมาสู่การตรวจพบว่ารายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ( EIA) ของโครงการดังกล่าวได้หมดอายุลงแล้ว ส่งผลให้ทั้งโครงการดังกล่าวต้องหยุดการก่อสร้างโดยสิ้นเชิงอย่างถาวร