ชุมพร- ตำรวจทางหลวงชุมพร ออกตรวจเจอรถทัวร์วิ่งแช่ขวายาว เรียกว่ากล่าวตักเตือน ถึงกับตะลึง! พบผู้โดยสารเป็นต่างด้าวเถื่อนเกือบครึ่งร้อย ปนมากับคนไทย คนขับสารภาพได้ค่าจ้าง 5 หมื่น
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ ( 26 มิ.ย.68 ) ที่สถานีตำรวจทางหลวงชุมพร ว่าที่ พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล. ร.ต.อ.ชรัณ ปาณะศรี รอง สว. ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล., ร.ต.อ.วิมล แก้วชู รอง สว.(ป) ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล แถลงข่าวผลการจับกุมรถทัวร์ขนแรงงานเถื่อน ผู้ต้องหาชาวไทย 3 คน ผู้ต้องชาวเมียนมา 47 คน
ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาชาวไทย 3 คน ร่วมกันลักลอบขนแรงงานต่างด้าวมากับรถทัวร์โดยสารประจำทาง คือ (1.)นายประสิทธิ์ อึ่งทอง อายุ 63 ปี คนขับรถทัวร์ อยู่บ้านเลขที่ 39/14 ถนนสตูลธานี ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล (2.)นายทศพร ศาสตร์มะเริง อายุ 34 ปี คนขับมือสอง อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ 5 ถนนภาวดี ต.พังลา อ.สะเดา จ.สงขลา (3.)นายศุภกิจ มิ่งพิจารณ์ อายุ 25 ปี พนักงานประจำรถ อยู่บ้านเลขที่ 21/1 หมู่ 7 ตำบลบางวัน อ.คุระบุรี จ.พังงา
ผู้ต้องหาแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา เป็นเพศชายจำนวน 30 คน เพศหญิง 16 คน และมีผู้ติดตามเพศหญิง 1 คน รวมทั้งหมด จำนวน 47 คน
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 03.00 น.ของเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุมพร ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้การสั่งการของผู้บังคับบัญชาได้ขับขี่รถวิทยุตรวจการณ์หมายเลข 2408 ออกตรวจตราในพื้นที่รับผิดชอบป้องกันปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย
ขณะออกตรวจมาถึงบริเวณถนนเพชรเกษม กม.483 ขาล่องใต้ หมู่ 9 ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ได้พบรถทัวร์โดยสารประจำทางต้องสงสัย ยี่ห้อ SCANIA สีขาว-ฟ้า ทะเบียน 14-2301 กทม. ของบริษัท ลิกไนท์ ทัวร์ ขับมาในลักษณะแช่ขวายาวตลอดเส้นทางเดินรถ โดยได้แซงรถวิทยุของตำรวจทางหลวงชุมพรขึ้นมาในช่องทางขวา
เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตาม พร้อมส่งสัญญาณเรียกให้รถคันดังกล่าวหยุดเพื่อว่ากล่าวตักเตือน แต่รถคันดังกล่าวได้เร่งความเร็วลักษณะคล้ายจะหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ไล่ติดตามและสามารถบังคับให้รถโดยสารประจำทางคันดังกล่าวหยุดลงข้างไหล่ทาง
จากการตรวจสอบทราบชื่อต่อมาคือ นายประสิทธิ์ อึ่งทอง อายุ 63 ปี และมี นายทศพร ศาสตร์มะเริง อายุ 34 ปี เป็นผู้ขับขี่ประจำรถคนที่ 2 และ นายศุภกิจ มิ่งพิจารณ์ อายุ 25 ปี เป็นพนักงานประจำรถ เมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามว่าเหตุใดจึงไม่จอดรถขณะที่เจ้าหน้าที่เรียกให้หยุด โดยทั้ง 3 คน กลับมีท่าทางพิรุธต้องสงสัยพูดจาวกไปวนมา
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขึ้นไปตรวจสอบบุคคลภายในรถทัวร์โดยสาร ซึ่งมีกลิ่นสาปหึ่งไปทั่ว เมื่อตรวจสอบผู้โดยสารทั้งหมดมีคนไทยจำนวน 20 คน นอกนั้นบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา นั่งเบียดกันมาทั้งชายและหญิงรวมทั้งหมด 47 คน โดยทั้งหมดไม่มีเอกสารแสดงตนหรือหลักฐานแสดงการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย
เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ขับขี่และพนักงานประจำรถที่รู้เห็นในการนำพาบุคคลต่างด้าวทั้ง 3 คน และบุคคลต่างด้าวทั้งหมด พร้อมรถของกลางมายังสถานีตำรวจทางหลวงชุมพร เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยละเอียด
จากการสอบถาม นายประสิทธิ์ ผู้ขับขี่ประจำรถ นายทศพร คนขับมือสอง และนายศุภกิจ พนักงานประจำรถทัวร์ ให้การรับสารภาพว่า บุคคลต่างด้าวทั้งหมดไม่มีหนังสือเดินทางและเข้ามาโดยผิดกฎหมาย ซึ่งขณะนำรถออกจากสถานีขนส่งสายใต้ มีผู้โดยสารคนไทยที่ซื้อตั๋วมาด้วยจำนวน 20 คน โดยยอมรับว่าตนได้รับการว่าจ้างจากนายหน้าเป็นคนไทย ไม่ทราบชื่อที่อยู่ ได้ให้แต่เบอร์โทรไว้ 2 หมายเลข แจ้งให้มารับบุคคลต่างด้าวที่ไม่มีเอกสารประจำตัวและไม่มีตั๋วโดยสารอีก จำนวน 2 จุด
หลังจากออกจากสถานีขนส่งสายใต้ จุดแรกนายหน้าให้จอดรับที่ จ.สมุทรสาคร และมารับจุดที่ 2 ที่ จ.สมุทรสงคราม ซึ่งจะมีเบอร์โทรของนายหน้าโทรมาหาและบอกจุดรับ-ส่ง ตลอดเส้นทาง โดยได้รับค่าจ้างรวมเป็นเงินประมาณ 50,000 บาท จะโอนให้หลังจากส่งบุคคลต่างด้าวถึงจุดหมายปลายทางที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหากับ ผู้ถูกจับทั้ง 3 คน แล้ว ในข้อหา “ผู้ใดรู้ว่าคนต่างด้าวคนใด เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหา และชาวต่างด้าวทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป