สุราษฎร์ธานี - ท้าทายกฎหมาย บุกจับร้านจำหน่ายบารากุ ให้กับนักท่องเที่ยวกลางเมืองเกาะพะงัน เจ้าหน้าที่ ยึดของกลางได้เพียบ พบชาวรัสเซีย เป็นเจ้าของ
ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงัน ระดมกวาดล้างอาชญากรรม เกี่ยวกับอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และบุคคลตามหมายจับ ห้วงวันที่ 14-20 มิถุนายน 2568 พร้อมทั้งประสานสภ.เกาะพะงัน,ฝ่ายปกครอง,ตรวจคนเข้าเมือง ร่วมจับกุม
ล่าสุดเมื่อเวลา 20.30น.วันที่ 19 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันได้รับการร้องเรียนจากพลเมืองดี ว่า มีร้านจำหน่ายกัญชา จำหน่ายบารากุหรือชิช่า ให้กับนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการในตลาดแห่งหนึ่ง ชื่อร้าน Dons ม.1 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปยังพิกัดที่ได้รับแจ้ง พบมีลูกค้าจำนวน 3 โต๊ะ กำลังนั่งดูดบารากุอยู่ภายในร้าน เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พบ นางจานดา อายุ 41 ปี สัญชาติ เมียนมาร์ กำลัง เสิร์ฟน้ำ เสิร์ฟบารากุให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการภายในร้าน ได้ขอตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือเอกสารที่ใช้แทนหนังสือเดินทาง พบว่าในหนังสือเดินทาง ทำงานในตำแหน่ง กรรมกร อนุญาตให้ทำงานถึงวันที่ 31 มีนาคม 2569
นอกจากนั้นยังมีนางตานตาโซ่ อายุ 28 ปี สัญชาติ เมียนมาร์ยืนอยู่ภายในเคาท์เตอร์ของร้านดังกล่าว กำลังให้บริการลูกค้าและรับ-ทอนเงินสดจากลูกค้าที่มาใช้บริการ ได้ขอตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือเอกสารที่ใช้แทนหนังสือเดินทาง พบว่าในหนังสือเดินทาง ทำงานในตำแหน่ง กรรมกร อนุญาตให้ทำงานถึงวันที่ 31 มีนาคม 2569
จึงได้เชิญตัวทั้ง 2 คน พร้อมของกลาง ของกลาง
1.น้ำยาบารากุ แบบซอง จำนวน 23 ซอง 2.น้ำยาบารากุ แบบกระปุก จำนวน 5 กระปุก 3.น้ำยาบารากุ แบบกระปุกทรงสี่เหลี่ยม จำนวน 8 กระปุก4.เครื่องสูบบารากุ จำนวน 7 ตัว 5.สายสำหรับเครื่องสูบบารากุ จำนวน 13 เส้นมาที่หน่วยบริการตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงัน
พร้อมแจ้งข้อหา นางจานดา “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ์จะทำได้ (บริการ)” และ นางตานตาโซ่ ข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ์จะทำได้ (เสมียนตราพนักงาน) และ ซ่อนเร้น จำหน่าย พาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร จึงนำตัวทั้ง2คนพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามนางจานดา วิน ให้การยอมรับว่าตนได้ทำงานที่ร้านมาเป็นระยะเวลา 4 เดือนแล้ว ได้รับเงินเดือน 3,000 ต่อสัปดาห์ โดยมีหน้าที่ในการเผาไฟถ่านสำหรับบารากุ เตรียมน้ำยาบารากุจัดลงในภาชนะเพื่อเตรียมเสิร์ฟให้กับลูกค้า เสิร์ฟน้ำและอาหาร ทำความสะอาดภายในร้าน และให้การต่อว่า ตนเองเคยถูกจับ มาแล้วด้วยชุดจับกุมชุดนี้ และร้องให้เสียใจ จนเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เข้าไปปลอดจนมาอาการดีขึ้น
จากการสอบถามนางตานตาโซ่ให้การยอมรับว่าตนได้ทำงานที่ร้าน DONS จริง ทำหน้าที่เป็นแคชเชียร์หรือเสมียนตราพนักงาน คอยทำหน้าที่รับออเดอร์และรับทอนเงินสดจากลูกค้าใช้บริการ ทั้งยังให้การยอมรับว่าที่ร้านของตน ได้จำหน่ายบารากุให้กับนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการจริง โดยราคาของบารากุขึ้นอยู่กับรสชาติและปริมาณที่ลูกค้าเลือก
ทั้งนี้ จากคำให้การ ของทั้งสองคน ร้านดังกล่าวเคยโดนตำรวจชุดนี้จับเป็นครั้งที่ สอง ในรอบ ปี นี้ ทั้งสองให้การต่อว่า เนื่องจากได้รายได้ดี และ มีลูกค้ามาใช้บริการ รายได้ต่อวัน 10,009-15,000 บาทต่อวัน สอบถามทั้งสอง ทราบว่า มีชายชาวรัสเซีย เป็นคนว่าจ่าง ตน ให้มาขายและ แบ่งเงินกัน ซึ่งตนเอง ไม่เคยเห็นหน้า แต่จะโอนเงินเข้าบันชี ให้กับชายรัสเซีย คนดังกล่าวทุกวัน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รวบรวมหลังฐาน ส่ง พนักงานสอบสวน เพื่อ ร้องทุกกล่าวโทษ ชายชาวรัสเซีย ต่อไป
ทั้งนี้ทางท่าน พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำผบช.ทท.ได้กำชับหัวหน้าสถานีตำรวจท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวนำร่องและพื้นที่ไกล้เคียงเร่งให้กวาดล้างการกระทำผิดของชาวไทย กลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาแฝงตัวก่ออาชญากรรมทุกรูปแบบ ให้ดำเนินคดีเด็ดขาดไม่เว้นทุกกรณี เพื่อสร้างภาพลักษณการท่องเที่ยวสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวอย่างจิงจัง และเด็ดขาด