ตรัง – เกษตรกรผู้ปลูกฟักทองในพื้นที่ ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ร้องราคาผลผลิตตกต่ำและผลผลิตลดลงกว่าครึ่ง ทำให้ขาดทุนยับ วอนรัฐบาลหันมาเหลียวแลเกษตรกรบ้าง
วันนี้ (19 มิ.ย.) สินค้าเกษตรภาคใต้ของไทยมีราคาตกยกแผง ทั้งยางพาราที่ขณะนี้เหลือประมาณ กก.ละ 50 บาท ปาล์มน้ำมันราคา กก.ละ 4 บาทเศษ และล่าสุดถึงคิวชาวสวนผู้ปลูกฟักทองในจังหวัดตรังที่กำลังน้ำตาตก หลังราคาร่วงลงเหลือแค่ กก.ละ 8 บาท จากที่ปีที่แล้วราคาหน้าสวนขายได้ถึง กก.ละ 19-20 บาท ขณะที่ผลผลิตปีนี้ก็ยังออกน้อยเหลือไม่ถึงครึ่งของปริมาณผลผลิตทั้งหมดของปีที่ผ่านมา เนื่องจากความเสียหายจากฝนตกชุก ทำทุกรายขาดทุนย่อยยับ วอนรัฐบาลหันมาเหลียวแลเกษตรกรบ้าง
โดย นายโสภณ ชูศรี เกษตรกรหมู่ที่ 1 ต.ห้วยนาง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง บอกว่า ตนเองยึดอาชีพหลักคือ ปลูกฟักทองสายพันธุ์ทองอำไพ 426 มาประมาณ 20 ปีแล้ว ในเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 100 ไร่ ขณะนี้ผลผลิตเริ่มเก็บได้แล้ว โดยมีพ่อค้าแม่ค้าคนกลางจากจังหวัดนครศรีธรรมราช เดินทางมารับซื้อถึงสวน เพื่อส่งต่อไปยังตลาดปลายทางที่กรุงเทพฯ จังหวัดอ่างทอง และจังหวัดแถวภาคกลาง แต่ปีนี้กลับประสบปัญหาราคาตกต่ำลงมาก และปริมาณผลผลิตก็ลดลงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ สาเหตุเพราะเกิดฝนตกชุก ทำดอกร่วง ติดผลน้อย และผลเน่าเสีย
ด้าน นายพิศ สุขรักษา กำนันตำบลห้วยนาง บอกว่า ตนเองก็มีอาชีพปลูกฟักทอง เนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ แต่ปีนี้ผลผลิตเหลือไม่ถึงครึ่ง จากปีก่อนๆ ได้กว่า 10 ตัน แต่ตอนนี้เหลือ 3-5 ตันเท่านั้น แถมเคราะห์ซ้ำราคามาตกต่ำอีก ทำให้ขาดทุนหลายแสนบาท เพราะต้นทุนสูง ทั้งค่าไถ ค่าปุ๋ย โดยในตำบลห้วยนาง มีเกษตรกรยึดอาชีพปลูกฟักทองขาย จำนวน 8 ราย เนื้อที่รวมประมาณ 400 ไร่ และยังไปปลูกพื้นที่ตำบลใกล้เคียงด้วย แต่ทุกรายขาดทุนยับ อยากให้รัฐบาลมาดูแลด้านราคาผลผลิตให้ดีขึ้น และดูแลราคาปุ๋ยไม่ให้แพงเกินไปเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร