xs
xsm
sm
md
lg

ต้องอนุรักษ์ไว้ “จำปูลิ้ง” ผลไม้ป่าภาคใต้ที่หาทานได้ยากและเด็กรุ่นใหม่แทบจะไม่รู้จัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สตูล – “จำปูลิ้ง” ผลไม้ป่าภาคใต้ที่ใน 1 ปีจะให้ผลเพียง 1 ครั้ง ซึ่งหาทานได้ยากและเด็กรุ่นใหม่แทบจะไม่รู้จัก แต่ยังมีอยู่ที่สวนไม้ป่าโบราณกว่า 5 ไร่ของผู้ใหญ่บ้านควนโต๊ะเหลง ต.ควนโดน อ.ควนโดน จ.สตูล

วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่บ้านควนโต๊ะเหลง ม.4 ต.ควนโดน อ.ควนโดน จ.สตูล ท่ามกลางสวนไม้ป่าโบราณกว่า 5 ไร่ของ นายวิทยา มะแอเคียน ผู้ใหญ่บ้านควนโต๊ะเหลง ยังมีผลไม้หายากที่คนรุ่นใหม่อาจไม่เคยได้ยินชื่อ นั่นคือ “จำปูลิ้ง” หรือที่ชาวบ้านท้องถิ่นเรียกว่า “อินเต๊ะ” ซึ่งกำลังออกผลเต็มต้นเพียงปีละครั้ง ซึ่งต้นจำปูลิ้งบางต้นในสวนนี้มีอายุเกิน 100 ปี สูงลิ่วกว่า 10 เมตร เป็นไม้ยืนต้นดั้งเดิมที่สืบทอดมาถึงรุ่นที่ 3

นายวิทยา มะแอเคียน ผู้ใหญ่บ้านควนโต๊ะเหลง เปิดเผยว่า สวนแห่งนี้มีต้นจำปูลิ้งอยู่ 10 ต้น ให้ผลพร้อมกัน 4 ต้นในปีนี้ โดยจะออกดอกช่วงปลาย มี.ค. ถึง เม.ย. และให้ผลผลิตช่วง พ.ค. ถึง มิ.ย.ของทุกปี โดยตนต้องการจะอนุรักษ์ไว้เพราะมันเป็นของโบราณ ในสมัยนี้หาได้ยากแล้ว เด็กรุ่นใหม่ไม่รู้จักด้วยซ้ำ จำปูลิ้งที่นี้จะมีเปลือกเหลือง เนื้อในสีส้มจัด รสเปรี้ยวอมหวาน ปีหนึ่งออกแค่รอบเดียว ผลผลิตไม่เคยพอขาย


ในทุกฤดูเก็บเกี่ยว ผู้ใหญ่บ้านควนโต๊ะเหลงจะจ้างแรงงานเยาวชนในหมู่บ้านให้ปีนเก็บผลไม้ด้วยตนเอง โดยจ่ายค่าแรงในระบบแบ่งครึ่งจากยอดที่ขายได้ ซึ่งถือเป็นการสร้างรายได้เสริมให้เด็กและเยาวชนในชุมชน และยังช่วยปลูกฝังความผูกพันกับทรัพยากรพื้นถิ่นอีกด้วย

นายอำรอด มินยุนุ้ย อายุ 31 ปี หนุ่มรับจ้างปีนเก็บผลจำปูลิ้ง เผยว่า งานนี้ไม่ง่ายเพราะต้องปีนต้นไม้สูงโดยใช้เชือกเซฟผูกลำตัวกับต้น และมีผู้ช่วยอยู่ด้านล่างคอยรับผลไม้ทุกลูก บางต้นสู่งกว่า 10 เมตร ต้นหนึ่งเก็บได้ประมาณ 60 กก. ขายหน้าสวนอยู่ที่ราคา 30-35 บาท

จำปูลิ้งถือเป็นไม้ผลพื้นบ้านที่กำลังจะเลือนหายไปจากวิถีชุมชน ด้วยเหตุที่ไม่มีการปลูกขยายพันธุ์ใหม่ และการเก็บเกี่ยวก็ต้องใช้แรงงานและทักษะเฉพาะตัว อีกทั้งยังมีผลผลิตปีละครั้งเท่านั้น สามารถกินสดหรือทำเป็นของว่างพื้นถิ่นก็ได้ มีวิตามินซีสูงตามแบบฉบับผลไม้ป่าภาคใต้ เป็นที่ต้องการของตลาดแม้จะมีเพียงปีละครั้ง

นอกจากจำปูลิ้งแล้ว ยังมีไม้ผลโบราณอื่นๆ เช่น กระท้อนป่า สะตอป่า จำปาดะ ทุเรียนพื้นบ้าน และลูกเหนียง ซึ่งผู้ใหญ่บ้านควนโต๊ะเหลงตั้งใจว่าจะเก็บรักษาไว้ให้ลูกหลานได้ลิ้มรสผลไม้ท้องถิ่นเหล่านี้ต่อไป ไม่ให้สูญหายไปกับกาลเวลา








กำลังโหลดความคิดเห็น